เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 มีรายงานความคืบหน้าการสืบสวนขยายผลในคดี "สีกากอล์ฟ" โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่จากวัดต่าง ๆ ที่เชื่อว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับหญิงรายนี้ ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมขอความร่วมมือจากวัดจำนวน 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ดังนี้

* วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

* วัดใหญ่จอมปราสาท จังหวัดสมุทรสาคร

* วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

* วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบการโอนเงินเข้าบัญชีของพระชั้นผู้ใหญ่จากวัดต่าง ๆ ที่คาดว่ามีความเชื่อมโยงกับหญิงรายนี้ โดยเฉพาะกรณีของ วัดใหญ่จอมปราสาท ซึ่งพบการโอนเงินจากวัดเข้าสู่บัญชีของสีกากอล์ฟจำนวน 2 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
เงินที่โอนดังกล่าวกำลังตรวจสอบว่าเป็นเงินส่วนตัวของพระ หรือเป็นเงินจากบัญชีของวัด ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเผยว่า พระบางรูปที่มีความใกล้ชิดกับสีกากอล์ฟ ได้รวมอำนาจบริหารจัดการด้านการเงินของวัดแต่เพียงผู้เดียว เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม โดยปราศจากการตรวจสอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า สีกากอล์ฟมีเจตนารีดไถหรือข่มขู่พระรูปต่าง ๆ หรือไม่ เนื่องจากยังไม่พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายชัดเจน โดยขณะนี้จึงให้น้ำหนักกับการวิเคราะห์เชิงความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะจังหวัด 2 รูป คือ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่มีความเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ โดยตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินผ่านบัญชีส่วนตัวให้หญิงรายนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลักฐานที่มีในขณะนี้เพียงพอที่จะทำให้พระหลายรูปเข้าข่าย “ปาราชิก” หรือพ้นจากความเป็นพระได้เลย

ด้าน อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมพาดพิงถึงพระรูปอื่นที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟเพิ่มเติม

จากการรวบรวมข้อมูลจนถึงขณะนี้ พบว่ามีพระที่เกี่ยวข้องกับหญิงรายนี้กว่า 20 รูป แบ่งเป็นผู้ที่มีเพียงเส้นทางการเงินเกี่ยวพัน และผู้ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในเชิงชู้สาว โดยในจำนวนนี้ยังมีพระอีก 6 รูปที่ยังไม่พบข้อมูลว่าลาสิกขาอย่างเป็นทางการ บางรูปไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่บางรายได้ตั้งทีมทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดีแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนที่วัด ในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้

เรียบเรียงโดย มุมข่าว