
กัณวีร์ สวนกลับกัมพูชา! แนะไทยใช้สิทธิมนุษยชนโต้บนเวทีโลก ปมวัดภูม่านฟ้า-แรงงานข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 47 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เกิดประเด็นร้อนระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อฝ่ายกัมพูชาได้หยิบยกประเด็น วัดภูม่านฟ้า ขึ้นมากล่าวหาว่า เป็นการลอกเลียนแบบนครวัดอย่างไร้จริยธรรม และเรียกร้องให้ยูเนสโกตรวจสอบ พร้อมสร้างแรงกดดันต่อประเทศไทยในเวทีระดับโลก
นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า การเคลื่อนไหวของกัมพูชาสะท้อนความพยายามที่จะสร้างประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ และยกระดับบทบาทตนเองในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของรัฐบาลกัมพูชาให้แข็งแกร่งขึ้นในสายตาประชาชนของตนเอง
นายกัณวีร์ระบุว่า ฝ่ายไทยตอบโต้ได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยการเน้นย้ำถึงความเป็นสากลของวัฒนธรรมและศิลปะที่ควรเป็นสมบัติร่วมกันของมนุษยชาติ มากกว่าจะถูกอ้างกรรมสิทธิ์ผูกขาดโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง พร้อมเสนอแนะว่า จากนี้ฝ่ายไทยควรเตรียมพร้อมมากขึ้น เพราะกัมพูชาน่าจะไม่หยุดเพียงแค่ประเด็นวัดภูม่านฟ้าเท่านั้น แต่มีแนวโน้มจะหยิบยก ประเด็นแรงงานข้ามชาติ มาต่อว่าไทยบนเวทีโลกในอนาคตอีกด้วย ไทยควรใช้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นแนวทางตั้งรับและเชิงรุกในเวทีระหว่างประเทศ นายกัณวีร์กล่าว พร้อมย้ำว่า หากไทยดำเนินการทุกอย่างตามหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนสากล จะไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อการโจมตีใด ๆ
เขายังแนะนำเพิ่มเติมว่า ไทยควร หยิบยกคดีสังหารนักกิจกรรมฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย ซึ่งเคยเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ขึ้นมาเป็นประเด็นบนเวทีโลก เพื่อให้สังคมระหว่างประเทศเห็นพฤติกรรมและแนวทางของรัฐบาลกัมพูชาอย่างชัดเจน นายกัณวีร์ทิ้งท้ายว่า ตัวแทนไทยในเวทีระหว่างประเทศ ควรแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ สงบ สุขุม และมีเหตุผล ไม่ใช่ตอบโต้แบบดุดัน แต่ควรแสดงให้เห็นว่า ไทยต้องการเสริมสร้างสันติภาพและความสัมพันธ์อันดีในภูมิภาค มากกว่าขัดแย้งกันเอง
ไทยควรแสดงบทบาทผู้นำในอนุภูมิภาค ไม่ใช่ปล่อยให้กัมพูชาจี้เราอยู่ฝ่ายเดียว นายกัณวีร์กล่าว