มหาแหล่ หายตัวหลังมีสัมพันธ์ลึกกับสีกา ชาวบ้านแฉ ควงหญิงมานานกว่า 5 ปี

มหาแหล่ หายตัวหลังมีสัมพันธ์ลึกกับสีกา ชาวบ้านแฉ ควงหญิงมานานกว่า 5 ปี

จากกรณีที่มีคลิปหลุดว่อนโซเชียล แฉความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา กับหญิงสาว สีกา ก. ได้กลายเป็นกระแสร้อนแรงในสังคม โดยล่าสุดพบว่าพระรูปดังกล่าวได้หายตัวไปจากวัดตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

ต่อมามีการสืบหาข้อมูลเชิงลึกพบว่า พระรูปนี้มีบ้านเกิดอยู่ที่อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

จากการเปิดเผยของชาวบ้าน ทราบว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรายนี้ มีชื่อเล่นในวัยเด็กว่า บักแหล่ เนื่องจากมีผิวคล้ำ ต่อมาบวชเรียนที่วัดหลวงพ่อโสธรตั้งแต่อายุประมาณ 11 ปี และได้สอบได้นักธรรมชั้นสูง ชาวบ้านจึงเรียกติดปากว่า มหาแหล่

ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา มหาแหล่ จะกลับมาเยี่ยมบ้านเป็นบางครั้ง โดยมักจะพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย ซึ่ง มหาแหล่ เรียกว่า แม่ออก คำที่อาจหมายถึงโยมอุปัฏฐาก แต่ในภาษาถิ่นอีสานก็ใช้เรียกแฟนหรือภรรยาแบบหยอกล้อได้เช่นกัน โดยหญิงคนดังกล่าวยังสาว อายุไม่มาก และมักมาค้างแรมที่บ้านพ่อของมหาแหล่ 2-3 วัน

ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เคยประกาศห้ามไม่ให้ มหาแหล่ มาพักจำวัดในหมู่บ้าน เนื่องจากเห็นว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาจทำให้วัดและพระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

นายศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของบิดามหาแหล่ ให้ข้อมูลว่า เคยพบหญิงคนดังกล่าว 2-3 ครั้ง โดย มหาแหล่ มักใช้รถเก๋งสีขาวของเธอเดินทางมาพักที่บ้านซึ่งอยู่นอกชุมชน ตัวหญิงจะพักอยู่กับพ่อของมหาแหล่ ส่วนพระมหาแหล่จะไปนอนที่เถียงนา ซึ่งห่างจากบ้านประมาณหนึ่ง โดยเวลามาจะมีพระมาด้วยอีกรูปหนึ่ง

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มหาแหล่ไม่ได้เดินทางกลับมาบ้านเกิด ส่วนพ่อของเขาเคยเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่วัดเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน โดยไม่ทราบเหตุผล

เมื่อมีการสอบถามถึงแม่ออกที่ชาวบ้านเคยพบ เป็นคนเดียวกับ สีกากอล์ฟ ที่เป็นข่าวหรือไม่ ทุกคนตอบว่าไม่ทราบแน่ชัด เพราะจำหน้าไม่ได้ แต่ยืนยันว่า มหาแหล่ สนิทกับหญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตามชาวบ้านในหมู่บ้านมีทั้งเสียงเสียดายและวิพากษ์วิจารณ์ บางคนมองว่า น่าเสียดายที่บวชเรียนจนเป็นมหา แต่กลับมาเสียพระเพราะผู้หญิง ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าพระควรตัดสินใจ สึก ถ้ารู้ตัวว่าไม่อาจรักษาศีลได้ มากกว่าจะยังคงห่มผ้าเหลืองแต่ประพฤติผิดจริยวัตรแบบนี้ แต่ชาวบ้านหลายคนที่ฟังอยู่ก็ตอบโต้ว่า ก็มีข่าวอยู่บ่อยว่าพระถูกสีกาหลอก แต่ก็ตัดใจสละผ้าเหลือง สึกออกมาอยู่กินกันก็มีถมเถไป แต่มหาแหล่กลับครองผ้าเหลือง ควงแม่ออกโดยไม่ละอายใจ ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็น นินทามากกว่า 5 ปีแล้ว นี่ถ้าคลิปไม่โผล่จนเป็นข่าวดังขึ้นมา ก็คงเสนอหน้าห่มผ้าเหลืองต่อไป

เรียบเรียงโดย มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ