
เปิดประวัติ พระมหาบุญเลิศ จากเด็กก่อสร้างสู่ศาสตราจารย์ ก่อนจบเส้นทางเพราะผู้หญิง!
จากกรณี สีกากอล์ฟ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการคณะสงฆ์ ภายหลังมีการเปิดเผยหลักฐานภาพลับกว่า 80,000 รูป ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก ทำให้พระหลายรูปต้องลาสิกขา บางรายถึงขั้นหายตัวไปอย่างปริศนา ล่าสุด พระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ยอมลาสิกขาแล้วเช่นกัน
พระเมธีวัชรบัณฑิต (เจ้าคุณหรรษา) เจ้าอาวาสวัดใหม่ยายแป้น เปิดเผยว่า พระมหาบุญเลิศได้ตัดสินใจลาสิกขาไปเมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมา หลังมีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ โดยพระมหาบุญเลิศได้ส่งข้อความแจ้งภายหลังออกจากวัด พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความจริง แต่ระบุว่า ตนเองตกเป็นเหยื่อการวางยาและถูกถ่ายภาพแบล็กเมล
เขาเล่าว่า ได้รับนิมนต์จากสีกากอล์ฟให้ไปที่บ้าน โดยอ้างว่าจะร่วมทำบุญสร้างพระ หลังจากดื่มน้ำที่อีกฝ่ายถวาย ก็ตกอยู่ในอาการหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมาจึงพบว่าถูกถ่ายภาพไว้ เพื่อใช้ข่มขู่แบล็กเมลในภายหลัง อดีตพระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี เป็นพระลูกวัดวัดใหม่ยายแป้น เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และเป็นที่รู้จักในฐานะพระวิชาการ โดยได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น ศาสตราจารย์ ขณะอายุเพียง 46 ปี ถือเป็นพระสงฆ์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับตำแหน่งนี้
ก่อนหน้าจะลาสิกขา พระมหาบุญเลิศดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม
ผลงานและตำแหน่งทางวิชาการที่ผ่านมา ได้แก่:
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสังคมศาสตร์ มจร.
ผู้อำนวยการหน่วยวิทยบริการ คณะสังคมศาสตร์ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม และ จ.ชลบุรี
ผู้อำนวยการหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จนถึงปี 2561
ชีวิตส่วนตัว อดีตพระมหาบุญเลิศ เป็นชาวจังหวัดตรัง เติบโตมากับปู่ย่าในครอบครัวยากจน เป็นบุตรคนสุดท้อง แม้เรียนดีและสอบได้ที่ 1 มาตลอด แต่ไม่มีโอกาสเรียนต่อในระดับมัธยม จึงต้องทำงานก่อสร้าง ก่อนตัดสินใจบวชเณรเพื่อใช้ชีวิตทางธรรมในการศึกษาต่อ
ก่อนที่จะมีโอกาสได้เข้าเรียนที่ สำนักเรียนปริยัติธรรมแผนกบาลี วัดกะพังสุรินทร์อยู่ 2 ปี ภายหลังสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 3 ประโยค ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อและเริ่มบทบาทนักวิชาการในวงการสงฆ์
เรียบเรียงโดย มุมข่าว