
รัฐเดินหน้าเต็มสูบ ช่วยเกษตรกร ส่งทหาร นักโทษ ช่วยเก็บลำไย
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรภาคตะวันออกในการระบายผลไม้ช่วงปลายฤดู หลังไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ เนื่องจากสถานการณ์การปิดด่านชายแดน
โดยได้มีการกระจายผลผลิตผลไม้ไปแล้วประมาณ 10,000 ตัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่นการร่วมมือกับตลาดสด 13 แห่ง เพื่อระบายผลผลิตทุเรียน
ร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย จัดซื้อผลไม้ เช่น มังคุด ลำไย และสับปะรดภูแล เพื่อนำไปแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายบนเครื่องบิน
ร่วมกับบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เพื่อรับซื้อผลไม้จำหน่ายในห้างแม็คโครและโลตัส จับมือห้างโก โฮเซลล์ ซื้อผลไม้ไปจำหน่าย ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เชิญชวน 40 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 รับซื้อผลไม้ไทย ประสานห้างค้าส่ง ค้าปลีก และห้างท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงานราชการ เพื่อเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิต ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะขยายไปยังพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งกำลังมีผลผลิตออกสู่ตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายอนุกูล กล่าวว่า หลังจากนี้ อีกไม่กี่สัปดาห์ ผลไม้ภาคตะวันออกจะสิ้นสุดฤดูกาล โดยในส่วนของภาคเหนือ ผลผลิตลำไย มะม่วง ลิ้นจี่ สับปะรด กำลังจะออกสู่ตลาด รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการประสานไปยังกองทัพ เพื่อขอกำลังพลทหารให้เข้ามาช่วยเก็บผลไม้แล้ว โดยเฉพาะลำไย ที่ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะมีมาก เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร และช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำผู้ต้องหาชั้นดี ออกมาช่วยเก็บลำไยด้วยแล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของลำไย ได้เตรียมแผนระบายผลผลิต โดยจะผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ อินเดีย ที่เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เริ่มนิยมบริโภคลำไยไทย และตะวันออกกลาง ที่เป็นตลาดที่มีโอกาสสูง โดยจะใช้จุดขายการเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เหมาะสำหรับบริโภคของชาวมุสลิมที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน รวมถึงตลาดจีน ที่จะมุ่งเจาะเมืองและมณฑลใหม่ ๆ เพราะยังมีโอกาสอีกมาก
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะช่วยเร่งระบายผลผลิต โดยประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยรับซื้อ และล่าสุดก็ได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ให้เข้ามาช่วยรับซื้อมังคุดภาคตะวันออก ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงปลายฤดูกาล และบางส่วนมีปัญหาจากการที่กัมพูชาปิดด่าน ทำให้ระบายผลผลิตไม่ได้ จึงได้เข้าไปช่วยรับซื้อ โดยเบื้องต้นซื้อแล้ว 70 ตัน และจะซื้อต่อเนื่อง เพื่อนำมาจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 8,200 สาขาทั่วประเทศ ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 40 บาท รวมทั้งมีแผนที่จะซื้อมังคุดภาคใต้ ลำไยภาคเหนือ และผลไม้ชนิดอื่น ๆ เข้าไปจำหน่ายด้วย อีกทั้ง ยังมีแผนสำรองไว้รองรับผลไม้ หากมีปัญหาผลผลิตล้นตลาด หรือผลผลิตออกกระจุกตัว โดยจะร่วมมือกับหอการค้าไทย วางแผนระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อรับมือผลผลิต โดยจะเชื่อมโยงโรงงานเข้าไปรับซื้อ นำผลผลิตไปแปรรูป และช่วยกันทำตลาด โดยขอพี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่า รัฐบาลได้กำหนดแผนเพื่อจะช่วยดูแลผลผลิตผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด และดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้ให้มากที่สุด
เรียบเรียงโดย มุมข่าว