รัฐบาลไทยยังคงเดินหน้าคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง ไทย กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีมติผ่อนผันให้แรงงานชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยสามารถอาศัยและทำงานต่อได้อีก 6 เดือน หรือจนกว่าด่านพรมแดนฝั่งกัมพูชาจะเปิดอย่างเป็นทางการ

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษก ศูนย์บัญชาการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศบ.ทก.) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ได้เตรียมผ่อนผันแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่ใบอนุญาตหมดอายุ ให้สามารถอยู่ในประเทศไทยต่อได้เป็นกรณีพิเศษโดย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม จนกว่าด่านชายแดนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว กระทรวงแรงงาน ได้เห็นชอบแนวทางผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาที่ถือ บัตรผ่านแดน (Border Pass) ทั้งที่ยังมีอายุและหมดอายุแล้ว สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานต่อได้อีก 6 เดือน หรือจนกว่าด่านจะเปิด

นอกจากนี้ยังมีมาตรการ ยกเว้นโทษเปรียบเทียบปรับ สำหรับผู้ที่อยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดให้แรงงานต้อง รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุก 30 วัน โดยครั้งแรกภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568

ฝั่งกัมพูชาตอบโต้เดือด ปมไทยไล่ล่า ก๊ก อานขณะเดียวกัน ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศยังไม่คลี่คลายเต็มที่ หลังจากที่ทางการไทยเปิดปฏิบัติการ ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไล่ล่าตัว ก๊ก อาน เจ้าพ่อกาสิโนคนดัง และคนใกล้ชิดของ สมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฐานต้องสงสัยสนับสนุนแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงคนไทยและต่างชาติ กรณีดังกล่าวทำให้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมาตอบโต้ทันทีผ่าน Facebook ส่วนตัว ก่อนที่จะมีการปิดกั้น IP จากประเทศไทย ไม่ให้เข้าถึงบัญชีส่วนตัวได้ในเวลาต่อมา ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชารายงานว่า นายเจีย ธีริธ โฆษกส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธความเชื่อมโยงระหว่าง ก๊ก อาน กับสมเด็จฯ ฮุน เซน พร้อมกล่าวหารัฐบาลไทยว่า พยายาม ปลุกปั่นโจมตี ด้วยการรายงานข่าวเชื่อมโยงบุคคลสำคัญของกัมพูชาเข้ากับอาชญากรรมข้ามชาติ

นายเจีย ธีริธ ยังกล่าวตำหนิว่า การกระทำของไทยครั้งนี้ทำให้กัมพูชา อับอายต่อสายตาประชาคมโลก พร้อมระบุว่า ทั่วโลกต่างรู้ดีว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางกระจายอาชญากรรมไปทั่วโลก

สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวสำคัญเพิ่มเติมจากฝั่งกัมพูชา หลังจาก สมเด็จฯ ฮุน เซน ปิดกั้นการเข้าถึง Facebook จาก IP ไทย และยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ขณะที่รัฐบาลไทยเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการแรงงานและเฝ้าระวังชายแดนอย่างเข้มงวด

สถานการณ์ระหว่างสองประเทศยังคงอยู่ในภาวะ เปราะบาง และต้องติดตามความเคลื่อนไหวทั้งในระดับรัฐบาลและโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด