จบยุคถอดรองเท้า! สหรัฐฯ เลิกมาตรการตรวจเข้มสนามบิน

จบยุคถอดรองเท้า! สหรัฐฯ เลิกมาตรการตรวจเข้มสนามบิน

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 มีการประกาศให้ผู้โดยสารในสนามบินทั่วสหรัฐฯ ไม่ต้องถอดรองเท้าขณะผ่านจุดตรวจความปลอดภัยอีกต่อไป ภายใต้นโยบายใหม่หลังจากบังคับใช้กฎนี้มาเกือบ 20 ปี

รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ คริสตี โนเอ็ม แถลงข่าวที่สนามบินนานาชาติโรนัลด์ เรแกน ในกรุงวอชิงตัน ประกาศเปลี่ยนแปลงระเบียบของสำนักงานรักษาความปลอดภัยการขนส่งแห่งสหรัฐฯ (TSA) อย่างไรก็ตาม TSA แถลงเพิ่มเติมว่า แม้จะยกเลิกกฎถอดรองเท้า แต่มาตรการความปลอดภัยอื่น ๆ ยังคงอยู่ครบถ้วน ทั้งการตรวจสอบตัวตน การคัดกรองโดยระบบ Secure Flight และกระบวนการอื่น ๆ

โดยนายโนเอ็ม ได้ระบุว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของเราพัฒนาไปอย่างมาก TSA ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยทางหน่วยงานมีแนวทางด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการจากทั้งหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถให้บริการผู้โดยสารและนักเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างราบรื่น โดยยังรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงเช่นเดิม

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการให้ผู้โดยสารถอดรองเท้าในการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2006 หรือ 5 ปีหลังจากเหตุการณ์ที่ ริชาร์ด รีด หรือที่รู้จักกันในชื่อ "มือระเบิดรองเท้า" ถูกจับกุมในข้อหาพยายามจุดระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในรองเท้าขณะอยู่บนเครื่องบิน

ย้อนกลับไปในปี 2001 รีด ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มอัลกออิดะห์ ได้พยายามจุดชนวนระเบิดจากรองเท้าบนเที่ยวบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ที่บินจากปารีสไปไมอามี แต่เขาถูกผู้โดยสารร่วมเที่ยวบินจับกุมไว้ได้ทันก่อนที่จะก่อเหตุได้สำเร็จต่อมา เขารับสารภาพผิดในข้อหาก่อการร้าย และกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่เรือนจำความมั่นคงสูงสุดในรัฐโคโลราโด

เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามบินสหรัฐฯ ที่เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ซึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินพาณิชย์พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และกระทรวงกลาโหม

ต่อมาในปี 2006 ทางอังกฤษสามารถยับยั้งแผนระเบิดเครื่องบินหลายลำโดยใช้ วัตถุระเบิดชนิดของเหลว ทำให้มีการออกข้อจำกัดเข้มงวดเกี่ยวกับการพกพาของเหลว เจล และสเปรย์ เช่น ยาสีฟันหรือขวดน้ำหอม ซึ่งต้องไม่เกินขนาดที่กำหนด

นอกจากนี้ สนามบินต่าง ๆ ยังเพิ่มมาตรการตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้โดยสารต้องนำ แล็ปท็อปและอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ออกจากกระเป๋าเพื่อตรวจแยกโดยเฉพาะ

ที่มา channelnewsasia

เรียบเรียงโดย มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ