วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวและข้อมูลในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นที่ประเทศกัมพูชากำลังเตรียมเสนอ ประเพณีแต่งงานเขมร (Khmer Traditional Wedding Ceremony) เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมกับองค์การยูเนสโก (UNESCO) และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศไทย ว่าอาจมีการนำองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ ชุดไทย หรือรูปแบบการแต่งกายแบบไทยไปใช้ในการนำเสนอนั้น ล่าสุด กระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกมาชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด พบว่า เอกสารและรายละเอียดการจัดทำข้อเสนอมรดกวัฒนธรรมของกัมพูชาในครั้งนี้ ไม่ได้มีการอ้างอิงหรือกล่าวถึงชุดไทย รวมถึงไม่มีการสอดแทรกเนื้อหาหรือรูปแบบการแต่งกายแบบไทย ในส่วนประกอบพิธีการหรือเครื่องแต่งกายที่นำเสนอแต่อย่างใด

นายปกรณ์ พึ่งเนตร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้น และได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากฝ่ายวัฒนธรรมกัมพูชา ยืนยันว่าการนำเสนอครั้งนี้เป็นการเสนอ ประเพณีแต่งงานเขมร ซึ่งเป็นพิธีกรรมและแบบแผนที่สืบทอดกันมาในกัมพูชาโดยเฉพาะ ไม่มีเนื้อหาหรือภาพชุดพิธีแต่งงานของชาติอื่นรวมอยู่ด้วย การแต่งกายที่ปรากฏในข้อเสนอของกัมพูชา ล้วนเป็นชุดพื้นถิ่นและเครื่องแต่งกายประจำถิ่นเขมร ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของกัมพูชาเอง ไม่ได้มีองค์ประกอบของชุดไทย ไม่ว่าจะเป็นแบบชุดไทยพระราชนิยม หรือชุดไทยโบราณใดๆ อย่างที่มีความกังวลกันในโซเชียล นายปกรณ์กล่าวยันความสัมพันธ์วัฒนธรรมยังดีต่อกัน

อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมยังระบุด้วยว่า ความร่วมมือด้านมรดกวัฒนธรรมระหว่างไทยและกัมพูชายังเป็นไปด้วยดี ทั้งในระดับรัฐบาลและองค์กรภาคีระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นกันมาอย่างต่อเนื่อง

การเสนอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นสิทธิ์ของแต่ละประเทศภายใต้ข้อกำหนดของยูเนสโก ซึ่งการจะพิจารณารับรองขึ้นทะเบียนหรือไม่นั้น จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์อย่างเข้มงวด ทั้งด้านเอกลักษณ์ ความเป็นเจ้าของทางวัฒนธรรม และการสืบสานต่อยอดของชุมชนในพื้นที่จริง

ขอประชาชนตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์ นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมขอความร่วมมือประชาชน ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารก่อนแชร์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ กระทรวงฯ จะติดตามและตรวจสอบทุกขั้นตอนการเสนอขึ้นทะเบียนประเพณีนี้กับยูเนสโกอย่างใกล้ชิด และหากมีข้อมูลที่กระทบต่อวัฒนธรรมไทย หรือการอ้างอิงที่ไม่ถูกต้อง ก็พร้อมดำเนินการตามช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที นายปกรณ์ กล่าว

สำหรับพิธีแต่งงานเขมร ถือเป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของกัมพูชา สืบทอดกันมายาวนาน โดยมีพิธีกรรมประกอบด้วยการบูชาบรรพบุรุษ การตัดผมพิธีกรรม การรดน้ำอวยพร และการแสดงดนตรีพื้นเมือง ซึ่งในข้อเสนอต่อยูเนสโกได้ระบุวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้