วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 บรรยากาศที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี กลายเป็นเวทีเคลื่อนไหวสำคัญ เมื่อกลุ่ม เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดย นายประสิทธิชัย หนุนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมกัญชา ร่วมกันเดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการเตรียมนำ กัญชา กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 อีกครั้ง

ชี้ชัด! แผนนี้เอื้อประโยชน์นายทุน ทำลายเศรษฐกิจฐานรากนายประสิทธิชัย ระบุว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพื่อต่อต้านแนวคิดของ กระทรวงสาธารณสุข ที่เตรียมนำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด อ้างเหตุผลเพื่อควบคุมการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งที่ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การปลดล็อกกัญชาเมื่อปี 2565 วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากสามารถสร้างอาชีพและรายได้จากอุตสาหกรรมนี้อย่างถูกกฎหมาย

ถ้ากัญชาถูกจัดกลับไปเป็นยาเสพติด จะเหลือเพียงนายทุนรายใหญ่ไม่กี่เจ้า ที่มีศักยภาพขออนุญาตครอบครองและผลิตได้ ขณะที่เกษตรกรกับผู้ประกอบการรายย่อยที่เคยปลูก เคยผลิตน้ำมันหรือแปรรูป จะกลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายทันที นี่คือการทำลายเศรษฐกิจชุมชนทางอ้อม นายประสิทธิชัย กล่าว

ย้ำอุตสาหกรรมกัญชาเพื่อสุขภาพ การแพทย์ กำลังเติบโตตัวแทนเครือข่ายฯ ระบุอีกว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพกำลังเติบโตต่อเนื่อง มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย เช่น น้ำมันกัญชา เครื่องสำอาง อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร

หากมีการกลับลำให้อยู่ในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง จะส่งผลกระทบต่อเนื่องทั้งโครงสร้างธุรกิจ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มแพทย์แผนไทย ที่ต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้

4 ข้อเรียกร้องจากเครือข่ายกัญชาไทยในการยื่นหนังสือครั้งนี้ เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้แถลง 4 ข้อเรียกร้องสำคัญ ได้แก่ 1 คงสถานะกัญชาให้เป็นพืชสมุนไพร ภายใต้กฎหมายควบคุมที่เหมาะสม 2 ออกกฎหมายเฉพาะ (Cannabis Act) เพื่อจัดระเบียบการผลิต ครอบครอง และใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ 3 ปกป้องวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรรายย่อย ให้สามารถดำเนินธุรกิจและปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพต่อไปได้ 4 สร้างมาตรฐานควบคุมการใช้ในเยาวชนและผู้ไม่ควรใช้ โดยไม่ต้องนำกลับเป็นยาเสพติด

ท่าทีจากกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการจาก กระทรวงสาธารณสุข ต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่มีรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ได้รับเรื่องไว้เพื่อพิจารณา และเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดอีกครั้ง

บทสรุป ความขัดแย้งผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมสีเขียวปรากฏการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นภาพความขัดแย้งระหว่าง กลุ่มทุนรายใหญ่กับวิสาหกิจชุมชน ที่กำลังแย่งชิงอำนาจควบคุมตลาดกัญชาในอนาคตอย่างชัดเจน

ขณะที่เสียงจากชุมชนผู้ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพยังคงยืนยันว่า หากมีกฎหมายควบคุมที่เข้มงวดและระบบการออกใบอนุญาตอย่างรัดกุม กัญชาจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของคนไทย ไม่ควรถูกตีตราเป็นยาเสพติดอย่างไม่เป็นธรรม