
แม่ค้าสาวสุดแซ่บ ชี้แจงแล้ว ปมแต่งตัวเกินงาม จนถูกโซเชียลวิจารณ์หนัก
จากกรณีที่เกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลเกี่ยวกับร้านอาหารชื่อดังที่พัทยา ของเจ้าของร้านไก่ยกครกที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวเอง โดยมีแม่ค้าสาวแต่งตัวเซ็กซี่ขณะทำอาหารไม่สวมผ้ากันเปื้อนหรือหมวกคลุมผม จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของสุขอนามัยในการประกอบอาหาร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 68 ได้มีการลงพื้นที่ไปยังร้านไก่ยกครก สาขาพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กับน.ส.ณภัคอร จิรรัชตภัค หรือ พีช อายุ 33 ปี แม่ค้าร้านไก่ยกครก พร้อมพาเดินชมร้าน ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวอีกหลายประเทศ เดินทางมาอุดหนุนและขอถ่ายภาพกับ น.ส.ณภัคอร อย่างเป็นกันเอง
โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นที่ปรากฏในโลกออนไลน์ว่า เป็นการนำเสนอเพียงบางส่วนจากการถ่ายทำคอนเทนต์ร้านเท่านั้น โดยการแต่งกายเซ็กซี่เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ต่างไปจากร้านอื่น และช่วยดึงดูดความสนใจในยุคเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในตอนนี้ ซึ่งร้านเองก็ต้องดูแลพนักงานเกือบ 100 คน
น.ส.ณภัคอร ได้กล่าวอีกว่า ทุกคลิปที่ถ่ายใช้เวลาเตรียมงานเกือบชั่วโมง เพื่อตัดคลิปลงโซเชียลเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น การถ่ายทำไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการปรุงอาหารให้ลูกค้าโดยตรงและในครัวจริง พ่อครัวแม่ครัวทุกคนก็สวมหมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อนครบถ้วนตามหลักสุขอนามัยและย้ำว่าทางร้านให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก พร้อมขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ยังคงให้การสนับสนุนร้านมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนเดินทางมารับประทานซ้ำหลายครั้ง ยืนยันถึงคุณภาพของอาหารและบริการที่ร้านลูกค้าแน่นทุกวัน เพราะรสชาติอาหารและการบริการของเราล้วนๆ ไม่ใช่แค่เพราะการตลาด ลูกค้าหลายคนเดินทางจากกรุงเทพฯ หรือต่างประเทศเพื่อมาชิมอาหารที่นี่ นั่นคือสิ่งที่พิสูจน์คุณภาพของเรา
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้ทิ้งท้ายไว้ว่า เข้าใจเสียงวิจารณ์จากสังคม และพร้อมน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจมุมของผู้ประกอบการที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในยุคที่เศรษฐกิจยากลำบาก โดยตนได้เลือกใช้วิธีการตลาดให้สร้างสรรค์เพื่อดึงดูดลูกค้า และไม่ได้มีผลกระทบต่อคุณภาพของอาหาร หรือความปลอดภัยของลูกค้า
เราขายอาหารสุจริต มีพนักงานหลายสิบชีวิตที่ต้องดูแล สิ่งที่ทำไปก็เพื่อให้ร้านอยู่รอดและพนักงานมีรายได้ค่ะ ร้านไก่ยกครกยังเปิดให้บริการปกติ พร้อมให้ทุกคนลองไปพิสูจน์รสชาติของอาหารอีกด้วย
เรียบเรียงโดย มุมข่าว