วันที่ 26 มิ.ย. เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทอง ภายในห้างสรรพสินค้า ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี คนร้ายได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมด 4 เส้น น้ำหนักรวม 38 บาท หลังรับแจ้งจึงได้รีบนำกำลังพร้อมสายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

กล้องวงจรปิดจับภาพชายสวมหมวก-ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ทำทีเข้ามาซื้อทองในร้านทองภายในห้าง ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับพนักงานให้หยิบสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น เอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็ว ต่อมา วงจรปิดจับภาพบนถนนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่คนร้าย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ จึงได้เข้าไปที่จะจับกุมคนร้าย แต่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่ตำรวจก็สามารถแย่งปืนจากคนร้ายมาได้

ต่อมา เวลา 11.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิทำรัศมีมณีรัตน์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนตกคอนโด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่คอนโดแห่งหนึ่งใน ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45 ปี ในตัวไม่มีเอกสาร อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.ชลบุรี จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบ จยย. ของผู้บาดเจ็บ ที่ขี่มาจอดไว้ใต้คอนโด

กล้องวงจรปิดภายในคอนโด สามารถจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ จะเห็นชายคนดังกล่าวเดินขึ้นมาบนคอนโด พอถึงชั้น 6 ก็เดินไปที่บริเวณหน้าต่าง ก่อนจะกระโดดลงมา

เวลา 15.30 น. ‘พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง’ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี และสภ.ดอนหัวฬ่อ ได้ไล่กล้องวงจรปิดและสืบสวนจนทราบว่า ชายที่ก่อเหตุชิงทอง และชายที่กระโดตึกนั้นเป็นคนเดียวกัน เป็นชาว ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังไปก่อเหตุจี้ชิงทอง ก็ได้ขี่ จยย. มาที่คอนโดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นคอนโดเก่าที่เคยอาศัยอยู่เมื่อ 10 ปีก่อน ล่าสุดทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตที่ รพ.

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต พบเอกสารทวงหนี้จำนวนมากอยู่ภายในตู้เอกสารหน้าบ้าน

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้ก่อเหตุปล้นร้านทองที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองชลบุรี ได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 38 บาท และต่อมาไม่นานได้มีเหตุการณ์คนกระโดตึก พื้นที่ ต.ดอนหัวฬ่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งแกะรอยหาตัวคนร้ายชิงทอง ซึ่งได้ไล่กล้องวงจรปิดจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร พักอยู่ที่ไหน จากนั้นก็ได้นำทะเบียน จยย. ของผู้ก่อเหตุมาเช็ก ปรากฏว่าเป็นทะเบียนเดียวกันกับ จยย. ของผู้ที่กระโดดตึก เช็กชื่อ-สกุลพบว่าเป็นบุคคลเดียวกัน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานอย่างแน่นหนาและชัดเจน จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งเช็กหาข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่ไหนบ้าง และนำทองไปซ่อนไว้ที่ไหน อีกทั้งจะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาของกลางทอง 38 บาท มาคืนให้กับร้านทองต่อไป