นร.จากเกาะกง เลิกเรียนเร็ว ผู้ปกครองแห่รีบมารับกลับ บอกพรุ่งนี้อาจไม่ได้มาเรียนแล้ว

นร.จากเกาะกง เลิกเรียนเร็ว ผู้ปกครองแห่รีบมารับกลับ บอกพรุ่งนี้อาจไม่ได้มาเรียนแล้ว

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 68 ตลอดทั้งวัน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งเป็นวันแรกยกระดับมาตรการคุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ด่านถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ห้ามคน ห้ามรถ ห้ามค้าขาย นั้น อีก 1 ผลกระทบของการยกระดับมาตรการนี้ คือ เด็กในจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา

ในภาวะปกติ เด็กในจังหวัดเกาะกง หลายสิบคน ทั้งระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษา จะเดินทางข้ามแดนมายังฝั่งอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด มาศึกษาที่โรงเรียนฝั่งไทย ผู้ปกครองบางคนส่งลูกถึงโรงเรียนแล้ว ก็ไปทำงานที่ในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ เพื่อรอรับลูกเรียนเสร็จ แล้วก็เดินทางกลับข้ามแดนตามปกติทุกวัน

เช่นเดียวกับเช้าวันนี้ เด็กในจังหวัดเกาะกง ยังคงเดินทางมาข้ามมาเรียนที่ฝั่งอำเภอคลองใหญ่ ตามปกติ ถึงโรงเรียน เข้าแถวเคารพธงชาติไทย ตอน 8 โมง และเข้าเรียนได้เพียง 2 ชั่วโมง ผู้ปกครองหลายคนขออนุญาตครู รับตัวเด็กนักเรียนกลับบ้านทันที เนื่องจากผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้ปกครองเด็ก ไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้แล้ว

เด็กนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านหาดเล็ก ให้ข้อมูลว่า วันนี้พ่อมารับเร็ว เพราะกลัวออกไม่ได้ ส่วนวันพรุ่งนี้ ก็คงไม่ได้มาเรียน อาจจะรอจนกว่าเหตุการณ์จะปกติ

ด้านเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านหาดเล็ก ให้ข้อมูลว่า มาตรการดังกล่าว ไม่ได้ห้ามนักเรียนเข้ามาเรียนในประเทศไทย เด็กเกาะกง ยังคงเข้ามาเรียน ได้ตามปกติเหมือนเดิมอย่างเช่นทุกวัน

และในช่วงบ่ายวันนี้ จนถึงช่วงใกล้ปิดด่านในเวลา 16.00 น.ฝ่ายปกครอง นำโดยนายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ ฝ่ายทหาร นำโดยนาวาเอกภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ด่านจามเยี่ยม จ.ตราด เพื่อขอให้คนไทยเกือบร้อยและรถยนต์ขนส่งสินค้าที่ตกค้างกว่า 40 คัน ผ่านด่านจามเยี่ยม กลับเข้าไปยังฝั่งไทย รวมไปถึงการเจรจาให้คนกัมพูชาและรถยนต์กัมพูชาผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กกลับประเทศ ซึ่งการเจรจานานกว่า 2 ชั่วโมง ด่านทั้ง 2 ฝั่ง ก็เปิดให้คนและรถที่ตกค้าง กลับเข้าประเทศได้เพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น

ขณะเดียวกัน มีแรงงานชาวกัมพูชาหลายสิบคน ทยอยเดินทางกลับประเทศ พร้อมขนสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อข้ามแดนกลับ จ.เกาะกง อย่างต่อเนื่อง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ