กัมพูชา ยืนยัน ส่งนักกีฬา 1,515 คน ร่วมแข่งซีเกมส์ ที่ไทย

กัมพูชา ยืนยัน ส่งนักกีฬา 1,515 คน ร่วมแข่งซีเกมส์ ที่ไทย

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมหารือการเตรียมการนักกีฬาและจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และผู้บริหารสมาคมกีฬา ร่วมประชุม

นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. แจ้งที่ประชุมว่า หลังจากปิดรับเอนทรี ฟอร์ม บาย นัมเบอร์ แล้ว ทั้ง 11 ชาติ ได้ส่งจำนวนนักกีฬาที่จะเข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 12,506 คน ดังนี้ บรูไน 250 คน, กัมพูชา 1,515 คน, อินโดนีเซีย 1,548 คน, ลาว 598 คน, มาเลเซีย 1,580 คน, เมียนมา 1,077 คน, ฟิลิปปินส์ 1,499 คน, สิงคโปร์ 1,481 คน, ติมอร์เลสเต 132 คน, เวียดนาม 1,019 คน, ไทย 1,807 คน ส่วนเจ้าหน้าที่จากทุกชาติจะมีรวมทั้งสิ้น 6,253 คน

สำหรับการส่งเอนทรี ฟอร์ม บาย เนม หรือรายชื่อนักกีฬานั้น ต้องส่งภายในวันที่ 1 กันยายน ขณะที่การจับสลากแบ่งสายกีฬาประเภททีม จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม

นายสรวงศ์กล่าวว่า การทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬา 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ส่วนที่ยังน่ากังวล ต้องปรับในส่วนที่สมรรถภาพอยู่ในระดับต่ำและปานกลาง ควรต้องปรับให้ดีขึ้น เพราะเก็บตัวมานานแล้ว ไม่ควรอยู่ในเกณฑ์นี้ เพื่อนำมาประเมินว่าการเก็บตัว 1 ปี ดีหรือไม่ดี เชื่อว่าการที่นักกีฬาได้ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง 1 ปี จะช่วยให้ผลการแข่งขันออกมาดีขึ้น ฝากสมาคมกีฬาให้ดูแลนักกีฬาให้ดีที่สุด และตัวเองจะเริ่มต้นไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมทุกชนิดกีฬา เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม

ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ขอให้มีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพให้เร็วที่สุด เพื่อให้เดินหน้าเป็นเจ้าภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดร.ก้องศักดกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า งบประมาณซีเกมส์ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในเรื่องกรอบงบประมาณในการเตรียมทีมและการเป็นเจ้าภาพแล้ว เรื่องเม็ดเงินไม่มีปัญหาแล้ว และฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. จะมีการประชุมเพื่อเตรียมแผนในขั้นตอนหลังจากนี้กับทุกสมาคมที่มีแข่งขันในซีเกมส์อย่างเร่งด่วนที่สุด

กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ที่กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ