ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา กระทบพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชา แรงงานเขมร ลั่น ไม่อยากกลับ

ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา กระทบพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชา แรงงานเขมร ลั่น ไม่อยากกลับ

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ จ.สระแก้ว มีรายงานบรรยากาศบริเวณตลาดโรงเกลือเงียบเหงาผิดปกติ หลังจากมีคำสั่งปิดด่านพรมแดนไทย-กัมพูชาในวันแรก โดยเฉพาะโซนตลาดผัก ซึ่งเคยคึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่เดินทางข้ามแดนมาค้าขายและจับจ่ายสินค้า กลับกลายเป็นพื้นที่ร้างเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าบางรายถึงขั้นนั่งตบยุง รอความหวังว่าจะได้ขายของ

นายบุญนา อายุ 49 ปี พ่อค้าชาวกัมพูชา ซึ่งขายกระเทียมอยู่ที่ตลาดโรงเกลือมานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่าสินค้าที่นำมาขายได้รับมาจากเถ้าแก่อีกทอดหนึ่ง โดยจะขายก่อนแล้วทยอยคืนทุนภายหลัง แต่จากสถานการณ์ปิดด่านในครั้งนี้ ทำให้ยอดขายตกต่ำจนแทบไม่พอเลี้ยงตัว “ปกติขายได้วันละ 5,000-6,000 บาท แต่วันนี้ขายได้แค่ 80 บาท” นายบุญนากล่าว พร้อมวิงวอนให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งเจรจาหาทางออกร่วมกัน เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือประชาชนตัวเล็กๆ

ด้านนายฮอน พ่อค้าขายมะนาว เผยว่าตนเพิ่งสั่งมะนาวมาจำนวนมากจากตลาดฝั่งไทย เพราะไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการปิดด่าน ทำให้มะนาวกองเต็มหน้าร้าน “ปกติขายไม่ถึง 3 วันก็หมดแล้ว แต่วันนี้ยังขายไม่ถึงพันบาทเลย” นายฮอนกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่ขับรถพาคนงานมาทำงานตามปกติ โดยคาดหวังว่าจะสามารถผ่านแดนได้ แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อพบว่าด่านถูกปิด โดยบางคนยังคงปักหลักรออยู่บริเวณด่าน ด้วยความหวังว่าจะมีการเปิดชั่วคราวในช่วงเย็น

นายเจีย อายุ 31 ปี แรงงานชาวกัมพูชา ที่ทำงานในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ไม่อยากกลับบ้านหรอก ถ้ากลับไปก็คงอดตายแน่ ผู้นำประเทศเขาพูดอะไรผมไม่เชื่อ เพราะกลับไปมีแต่อดตาย”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนชายแดนอย่างชัดเจน ซึ่งต่างหวังว่าทางการไทยและกัมพูชาจะหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันโดยเร็ว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ