วิโรจน์ ชี้ ฮุน เซน รู้อยู่แล้ว ไทยไม่เปิดด่านแน่ แนะรบ.กระทุ้งกระเป๋าเงิน หันสอบ 2 ออกญาแทน

วิโรจน์ ชี้ ฮุน เซน รู้อยู่แล้ว ไทยไม่เปิดด่านแน่ แนะรบ.กระทุ้งกระเป๋าเงิน หันสอบ 2 ออกญาแทน

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ฮุนเซนรู้อยู่แล้ว ว่าไทยไม่เปิดด่านแน่ จะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการปิดด่านฝั่งตัวเอง เพื่อให้นายทุนเครือข่ายตระกูลฮุนกินรวบการค้า

โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า ผมยืนยันว่า มาตรการที่จะสามารถสร้างแรงจูงใจให้ฮุนเซน และฮุนมาเนต ยินดีที่จะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างสมเหตุสมผล คือมาตรการที่พุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินของฮุนเซน และฮุนมาเนต ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายนายทุนไทย และอาจเกี่ยวพันโยงใยกับธุรกิจสีเทา และการกระทำที่ผิดกฎหมายต่างๆ

ตัวละครที่รัฐบาลไทยควรจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินในประเทศไทย มีอยู่ 2 คน ได้แก่ ออกญา ลี ยงพัด (Ly Yong Phat) นายทุนโรงไฟฟ้า โรงแรม คาสิโน และธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และออกญา มอง ฤทธี (Mong Reththy) นายทุนอุตสาหกรรมการเกษตร และธุรกิจท่าเรือ ซึ่งทั้งสองคนนี้ถือเป็นนายทุนใหญ่ ที่เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ข้างกายของฮุนเซน และฮุนมาเนต

โดยเฉพาะออกญา ลี ยงพัด เจ้าของ LYP Group นั้นมีประวัติถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐ ดำเนินการคว่ำบาตร อันเนื่องมาจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งกรณีนี้กระทรวงการต่างประเทศ สามารถประสานความร่วมมือกับ สหรัฐอเมริกาในการดำเนินการทางกฎหมายได้

การที่ฮุนเซน ออกมาเรียกร้องให้ไทยต้องเปิดด่านชายแดน กับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดด่านทุกด่าน และห้ามสินค้าไทยเข้ากัมพูชา ผมเชื่อว่าฮุนเซนเองก็รู้อยู่แล้วว่า “ไทยไม่มีทางทำตามข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้แน่ๆ” คำถามก็คือ แล้วฮุนเซนยื่นเงื่อนไขแบบนี้ทำไม คำตอบก็คือ ฮุนเซน จะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการปิดด่านในฝั่งตัวเองทุกด่าน และห้ามไม่ให้สินค้าไทยเข้ากัมพูชา ซึ่งคนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสที่สุด ก็คือ พ่อค้าแม่ขายชาวกัมพูชา ที่เป็นเจ้าของร้านค้าปลีกรายเล็กๆ ส่วนคนที่ได้ประโยชน์สูงสุด ก็คือ นายทุนในเครือข่ายของตนเอง ที่จะได้ถือเอาโอกาสนี้กินรวบ ผูกขาดการค้าภายในประเทศกัมพูชา

ฮุนเซน มีแต่ได้กับได้ นอกจากจะใช้กระแสชาตินิยมสร้างผลประโยชน์ทางการเมืองให้กับตนเองแล้ว ยังถือเอาโอกาสนีักินรวบผูกขาดเศรษฐกิจภายในประเทศของตนเองอีกด้วย

ผมอยากให้รัฐบาลรู้เท่าทัน และอ่านเกมฮุนเซน และฮุนมาเนตให้ขาด เพื่อที่จะได้กำหนดมาตรการในการกดดันที่ตรงจุด

เป้าหมายของเรา ไม่ได้ต้องการเข้าไปยุ่งยากกับกิจการภายในของกัมพูชา แต่เราจำเป็นต้องจัดการกับเส้นทางการเงิน ระหว่างนายทุนกัมพูชา และนายทุนไทย ที่เกี่ยวพันกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น การค้ามนุษย์ พนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีคนไทยจำนวนมากตกเป็นผู้เสียหาย เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมภายในประเทศ โดยมีกระเป๋าสตางค์ของเครือข่ายตระกูลฮุนเป็นผลพลอยได้

มาตรการที่จี้ถูกจุด เกาถูกที่ ส่งผลกระทบต่อกลุ่มทุนในเครือข่ายตระกูลฮุน จะทำให้ฮุนเซน และฮุนมาเนต ตระหนักว่าหากปล่อยให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ทอดเวลาออกไปเรื่อยๆ เงินในกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง ก็จะไหลออกไปเรื่อยๆ เช่นกัน

ผมเชื่อมั่นว่า มาตรการในลักษณะนี้ จะสามารถสร้างแรงจูงใจให้ฮุนเซน ฮุนมาเนต กลับสู่โต๊ะเจรจา และพร้อมที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ที่เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ในเร็ววันนี้

ผมขอแนะนำให้ท่านนายกฯ แพทองธาร พิจารณาสั่งการโดยเร็ว ผมเชื่อว่า ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจเศรษฐกิจ ตำรวจไซเบอร์ และ ปปง. พร้อมที่จะรับคำสั่งอยู่แล้วครับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ