ด่วน! กัมพูชาแถลงการณ์ล่าสุด ยัน จะไม่คุย 2 ฝ่ายกับไทย จะขอพึ่งศาลโลก

ด่วน! กัมพูชาแถลงการณ์ล่าสุด ยัน จะไม่คุย 2 ฝ่ายกับไทย จะขอพึ่งศาลโลก

วันที่ 5 มิถุนายน 68 ในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้มีการรายงานว่า

กัมพูชา ออก แถลงการณ์ ยัน ส่ง 4 พื้นที่ เข้าสู่ ศาลโลก ช่องบก -ปราสาทตาเมือนธม -ปราสาทตาเมือนโต๊ด -ปราสาทตาควาย ชี้ กลไก JBC ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ “ฮุน มาเนต” ยัน จะไม่คุย2 ฝ่ายกับไทย เรื่ิอง 4 พื้นที่นี้ จะขอพึ่งศาลโลก ชี้ขาดพิพาทชายแดน จับตา กัมพูชา จะร่วมประชุม JBC กับไทย 14 มิ.ย.นี้ หรือไม่

พนมเปญ – สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่คลี่คลาย เมื่อล่าสุด พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืนชัดเจนว่า รัฐบาลของเขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ กรุงพนมเปญ พร้อมประกาศขอใช้ช่องทางทางกฎหมายระหว่างประเทศโดยการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) แทนการเจรจาทวิภาคีกับไทย

ฮุน มาเนต ระบุว่าท่าทีนี้สอดคล้องกับแนวทางของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีคนก่อน และยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองสูง โดยระบุชัดว่า กัมพูชาจะไม่ประนีประนอมในพื้นที่พิพาทสำคัญๆ อาทิ ช่องบกในเขตชายแดนอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ไปจนถึงกลุ่มปราสาทโบราณสำคัญ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ซึ่งทอดยาวตามแนวชายแดนกว่า 200 กิโลเมตร

ในทางกลับกัน ฝั่งรัฐบาลไทยโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไทยยังยึดหลักเจรจาอย่างสันติ และจะไม่ขยายกรอบการหารือไปยังพื้นที่อื่นโดยไม่จำเป็น

"เราไม่ได้เสียอธิปไตยไป และเรายังเชื่อในพลังของการเจรจาเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย…ไทยจะไม่ไล่ตามไปทุกประเด็นที่กัมพูชาขยายออกมา เราขอพูดเฉพาะจุดที่เกิดเหตุจริงๆ เท่านั้น"นายภูมิธรรมกล่าว

สำหรับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชานั้นถือเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโบราณสถาน เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งเคยเป็นกรณีฟ้องร้องต่อศาลโลกในอดีต และยังคงทิ้งบาดแผลทางประวัติศาสตร์และอธิปไตยไว้ทั้งสองฝ่าย

การที่กัมพูชาตัดสินใจไม่เข้าร่วม JBC ครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณของความตึงเครียดที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจบริเวณชายแดนในอนาคต

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ