ผู้กองธร" รองสารวัตร กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม หรือ "สายลับวัดไร่ขิง" ที่เข้าไปแฝงตัวหาข่าว เก็บหลักฐานในวัดนานกว่า 8 เดือน จนนำไปสู่การจับกุมอดีตเจ้าอาวาส ที่ยักยอกเงินวัดหลักหลายร้อยล้านบาท

ผู้กองธร" ยังเล่าถึงการทำภารกิจจับอดีตเจ้าอาวาสด้วยว่าหนักใจ เพราะเป้าหมายเป็นวัดใหญ่-วัดดัง และยังห้ามแสดงตัวเด็ดขาด ระหว่างลงพื้นที่ก็เก็บข้อมูลดูพฤติกรรมทั้งคนในวัด คนมาทำบุญ แม้แต่พระ โดยเฉพาะอดีตเจ้าอาวาส หรือ ทิดแย้ม ถึงขั้นช่วงแรก ๆ ทนร้อน ซุ่มดูจากในรถยนต์ส่วนตัว

ก่อนค่อย ๆ ตีเนียนเป็นลูกศิษย์ แต่ก็ยังต้องมีที่พึ่งทางใจ ซื้อดอกไม้ธูปเทียน กราบสักการะขอพรหลวงพ่อวัดไร่ขิง ให้บารมีหลวงพ่อช่วยปกปักษ์รักษา เพราะมาดี มาขจัดสิ่งไม่ดีภายในวัดออกไป ก่อนเริ่มภารกิจ ผมขอพร หลวงพ่อวัดไร่ขิง ผมมาทำความสะอาดวัด ขอให้หลวงพ่อวัดไร่ขิง ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองผม ให้ผมทำงานนี้ได้สำเร็จ

แค่ดูไม่พอ ต้องลงมือทำ ก็อาสาทำทุกกิจกรรมเป็นประโยชน์ต่อวัด จนญาติโยมพากันเรียก "ลุงใจดี" อยู่ดู อยู่ทำ จนรู้แน่ทุกเรื่องทุกจุด โดยเฉพาะวัดมีตู้บริจาคกี่ตู้ แผงจำหน่ายวัตถุมงคลกี่แผง เพื่อประเมินรายได้ และเส้นทางการโอนเงิน

จนรู้ว่ามีทั้งหมด 20 บัญชี มีคนที่เกี่ยวข้อง อาทิ อดีตพระเอกพจน์, สีกาเก็น, นายสุจิตร, นายธรรมลักษณ์ และ นายฉัตรชัย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด โดยเฉพาะ "ทิดแย้ม" ช่วงนั้นไม่เห็น สีกาเก็น มาเอี่ยว จึงมุ่งแค่การยักยอกเงิน

ผ่านไป 8 เดือน ทีมสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และหมายค้นวัดไร่ขิง แต่ไม่ทันเปิดปฏิบัติการ ทิดแย้ม ก็ชิงมอบตัว 16 พฤษภาคม

แต่งานนี้ ผู้กองธร บอกว่า ขอยกความดีให้ทีมงานกองกำกับการ 5 กองปราบฯ ที่อยู่เบื้องหลัง จากนี้ไปก็จะลุยทำหน้าที่สายลับต่อ ไม่กลัวใครจะมาเอาคืน เพราะทำงานตามหน้าที่