กลายเป็นประเด็นที่วิพากญ์วิจารณ์อย่างมาก ในวงการสื่อมวลชนสายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงบรรดาผู้ติดตามข่าวความคืบหน้า นายทุนใหญ่ บุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองทําประโยชน์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยไม่ได้รับอนุญาต ปลูกทุเรียนเป็นแปลงขนาดใหญ่ รวมกว่า 700 ไร่ แต่ล่าสุด ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามคำสั่งที่ 158/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2568 ย้ายข้าราชการ ตำแหน่งอำนวยการสูง (ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด) จำนวน 3 คน และคำสั่งที่ 157/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2568 โอนข้าราชการตำแหน่งอำนวยการสูง จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ไปเป็น ผอ.ส่วนจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 จำนวน 1 คน

โดยมีการย้ายสลับกัน 3 คน ในตำแหน่ง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ผอ.ทสจ.) ตำแหน่งที่สร้างความแปลกใจให้กับบรรดากลุ่มข้าราชการในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏชื่อ นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา ถูกย้ายไปเป็น ผอ.ทสจ.พิษณุโลก ส่วน ผอ.ทสจ.พิษณุโลก ย้ายไป จ.ลำพูน และให้ ผอ.ทสจ.ลำพูน ย้ายมา จ.ฉะเชิงเทรา สำหรับนายพัชร์ภารุจ ถือเป็นผู้ที่ได้ไปตรวจสอบพบ “ข้อมูลความผิดปกติ” การขอใช้ที่ดินรัฐ ในช่วงต้นปี 68 ที่ผ่านมา ไปตรวจพบว่า ที่ดินกรมป่าไม้ ซึ่งเอกชนขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ ถูกเปลี่ยนมือไปสู่บริษัท “นายทุนใหญ่” เชื่อว่าเป็นนอมินีชาวจีน เข้ามาทำสวนทุเรียนแปลงใหญ่สุดลูกหูลูกตา

เมื่อเรื่องราวถูกตีแผ่เปิดโปง สื่อมวลชนทราบเข้าไปเกาะติดอย่างต่อเนื่อง ขยายผลลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ยังพบว่ามีการบุกรุกเข้าไปเขตป่าสงวนแห่งชาติแควระบม นอกจากนี้ยังทำให้ไปเจอความผิดปกติของการ “สวมชื่อ” ครอบครองที่ดิน คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) นำชื่อชาวบ้านจาก จ.จันทบุรี-ตราด มาสวมสิทธิที่ คทช. ในพื้นที่ ต.คลองตะเกรา โดยเจ้าตัวไม่ทราบเรื่อง เมื่อลงไปตรวจสอบพื้นที่ก็ไม่พบว่า คนที่มีชื่อถือครองเข้ามาทำประโยชน์จริง ทำให้นายพัชร์ภารุจ ทำหนังสือรายงาน ผวจ. เพื่อขอให้ ยกเลิกที่ คทช. ดังกล่าว เพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์ จากนั้นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ อายัด และจับกุม ผู้ที่เข้ามาครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ คทช. รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดกับที่ดินแปลงดังกล่าวมากกว่า 700 ไร่

มีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าจะมีคำสั่งออกมา นายพัชร์ภารุจ และข้าราชการ ทสจ. บางคนที่ต้องถูกย้ายไปด้วยนั้น ต่างก็พอจะทราบล่วงหน้าแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร อย่างไรก็ดีมีรายงานด้วยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำนายพัชร์ภารุจ เนื่องจากทราบว่า บริษัทดังกล่าวของนายทุนใหญ่ มีพฤติกรรมเดียวกับที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยการเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ทำเกษตรแปลงใหญ่ ในรูปแบบริษัทชื่อเดียวกันอีกหลายพื้นที่