เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พ.ค.68 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุบริเวณโรงเรียนลำพะอง เจ้าของโรงงานชาวไทย เปิดเผยหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ย่านซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

เจ้าของโรงงาน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าจุดที่เกิดไฟไหม้ เป็นเพียงจุดเก็บสินค้าสำเร็จรูปที่รอจำหน่าย ไม่ได้ผลิตหรือทำงานที่จุดนี้ จุดผลิตอยู่ที่อื่น แต่ในละแวกเดียวกัน ยอมรับเก็บพลาสติกไว้ในโรงงานจริง แต่ไม่แน่ใจจำนวนที่แน่ชัด เป็นพลาสติก HIPS และ ABS ซึ่งเป็นตัวที่ผลิตเสร็จแล้ว และนำมาเก็บไว้เพื่อจะกระจายไปให้กับลูกค้า

ตอนนี้ภายในโรงงานได้รับความเสียหายถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว แต่ก่อนเกิดเหตุมีการใช้ไฟหรือทำอะไรบ้าง ตนยังไม่ทราบ เพราะเมื่อวานเป็นวันหยุด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

เมื่อถามว่ามีสารเคมีชนิดอื่นอีกหรือไม่ เจ้าของโรงงานบอกว่า ไม่มี มีเพียงพลาสติก เมื่อถามต่อว่า มีชาวบ้านร้องเรียนว่าได้กลิ่นทินเนอร์ เจ้าของโรงงานก็ถามกลับว่า “แล้วคุณได้กลิ่นไหม“ พร้อมบอกว่าตอนนี้มีแค่กลิ่นที่เกิดจากการเผาไหม้

เจ้าของโรงงาน ยืนยันด้วยว่า โรงงานนี้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง และมีเจ้าของเป็นกลุ่มคนไทย สามารถไปเช็กดูได้ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า มีหุ้นส่วนเป็นชาวไต้หวันหรือไม่ เจ้าของโรงงานตอบว่า มี

เหตุการณ์นี้เป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งที่ทำได้คือ กำลังพยายามให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ที่ผ่านมาก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ไม่ทราบว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้เราก็ยังมีอีกกว่า 800 ชีวิตที่ต้องดูแล ยืนยันวิกฤตครั้งนี้เราจะสู้ต่อไป และต้องขอโทษเพื่อนบ้านด้วย แต่เราจะพยายามเยียวยาให้ดีที่สุด