วันที่ 6 พ.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 สืบสวนจับกุมตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อดีตข้าราชการ ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดคือ รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จากสมาชิก ช.พ.ค. แต่กลับเบียดบังเงินที่ได้รับดังกล่าวไปเป็นประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และไม่ส่งเงินเข้าบัญชีของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จังหวัดสมุทรปราการ หลายกรรมต่างกัน

การกระทำดังกล่าวจึงทำให้ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 ออกหมายจับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) โดยเป็นหมายจับที่ 26/2567 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่าทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติ

หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 11

และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

จากการสืบสวนทราบข้อมูลว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ประกอบอาชีพ และพักอาศัยอยู่หอพักแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ  และวางแผนจับกุมผู้ถูกกล่าวหา

โดยผู้ถูกกล่าวหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงแจ้งว่าจะต้องถูกจับพร้อมกับแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบ จากนั้นควบคุมตัวไปพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการต่อไป