
ประวัติ ประยุทธ มหากิจศิริ จากนักธุรกิจพันล้าน สู่วันพิพากษาคดี
จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ พิพากษาจำคุก นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) รวม 24 ปี ในความผิดเกี่ยวกับการทุจริตออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา รวมเพิ่มเนื้อที่ดินกว่า 189 ไร่ ให้สนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีก
สำหรับ “ประยุทธ มหากิจศิริ” จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา และได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยเขาเป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าของไทย ที่มีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม เขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกลุ่มบริษัท PMS Group ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจในหลายสาขา อาทิ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด (ผู้ผลิตเนสกาแฟในประเทศไทย), ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, ไทยคอปเปอร์ อินดัสตรี้ และสนามกอล์ฟเลควูด คันทรี คลับ
แม้จะถูกขนานนามว่าเป็น “เจ้าพ่อเนสกาแฟ” แต่ในความเป็นจริง ประยุทธเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มกาแฟชื่อดัง โดยถือหุ้นใน บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด สัดส่วน 51% ซึ่งเป็นโรงงานผลิตให้กับเนสท์เล่ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด แต่อย่างใด
นอกจากนี้ บนเส้นทางการเมือง “ประยุทธ มหากิจศิริ” เคยมีบทบาทสำคัญในช่วงหนึ่งของประเทศ โดยเริ่มจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี 2540 ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แต่เส้นทางนี้กลับไม่ราบรื่นนัก เมื่อเขาถูกตัดสิทธิทางการเมืองถึงสองครั้ง ครั้งแรกในปี 2545 จากการไม่เปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินอย่างครบถ้วน และครั้งที่สองในปี 2550 ภายหลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ
จนกระทั่ง เมื่อเข้าสู่วัย 75 ปี เขาเริ่มวางมือจากการบริหารกิจการแบบเต็มตัว และถ่ายทอดภารกิจให้กับลูกหลานในตระกูล ได้แก่ อุษณีย์, กึ้ง เฉลิมชัย และ อุษณา มหากิจศิริ โดยยังคงมีบทบาทเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในฐานะที่ปรึกษาและประธานกิตติมศักดิ์ เพื่อคอยประคองทิศทางธุรกิจของครอบครัวให้มั่นคงต่อไป
อย่างไรก็ตาม “ประยุทธ มหากิจศิริ” คือนักธุรกิจผู้ผ่านทั้งความสำเร็จทางธุรกิจ และบทเรียนในสนามการเมือง แม้เส้นทางจะมีทั้งจุดสูงและจุดสะดุด แต่ในบั้นปลาย เขาเลือกก้าวถอยเพื่อให้ทายาทรุ่นใหม่สานต่อเจตนารมณ์ ภายใต้เงาของประสบการณ์และบทบาทที่ยังทรงพลังในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความมั่นคงของธุรกิจครอบครัวขณะเดียวกัน น.ส.อุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวของนายประยุทธ ถูกพิพากษาจำคุก 12 ปี ในฐานะผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง โดยมีจำเลยอื่นๆ ที่ร่วมกระทำผิดถูกลงโทษจำคุกทั้งหมดเช่นกัน ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้