วินสาวขอโทษ ยกมือไหว้สวย ปาไข่ใส่นักท่องเที่ยว

วินสาวขอโทษ ยกมือไหว้สวย ปาไข่ใส่นักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์คลิปนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถูกปาไข่หน้าสถานีรถไฟหัวหิน สร้างความกังวลแก่ประชาชนและกระทบภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ MR.PERYAGH สัญชาติมอริเชียส เดินทางมาท่องเที่ยวในอำเภอหัวหิน พร้อมภรรยา โดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟหัวหิน จากนั้นเรียกรถแกร็บคาร์มารับเพื่อไปยังที่พัก แต่ขณะกำลังจะขึ้นรถบริเวณหน้าสถานีรถไฟ มีมือดีใช้ไข่สดปาใส่รถแกร็บจนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้านักท่องเที่ยว ทำให้รู้สึกตกใจและไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงโพสต์ข้อความเตือนภัยลงในกลุ่ม “Life in HuaHin”

พ.ต.อ.กัมปนาท กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุโดยด่วน ทีมสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และรวบรวมเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันย้อนหลัง พบว่ามีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง ระหว่างวันที่ 12-17 เมษายนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ราย ได้แก่ นางเอ (นามสมมุติ) อาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ น.ส.บี (นามสมมุติ) เยาวชนหญิง อายุ 16 ปี โดยทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง

จากการสอบสวนพบว่าแรงจูงใจในการกระทำมาจากความเครียดสะสม เนื่องจากในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา รายได้จากการขับวินลดลงอย่างมาก และมักเห็นรถแกร็บคาร์มารับผู้โดยสารตัดหน้าอยู่บ่อยครั้ง จึงเกิดความไม่พอใจและตัดสินใจก่อเหตุ โดยไม่ได้มีเจตนาทำร้ายนักท่องเที่ยวหรือทำลายภาพลักษณ์เมืองหัวหินแต่อย่างใด ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา MR.PERYAGH ได้โพสต์ข้อความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนในพื้นที่ผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยระบุว่า

"ฉันขอขอบคุณจากใจต่อชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวทุกท่านที่ให้กำลังใจ หลังเหตุการณ์ปาไข่เมื่อวานนี้ ตำรวจได้พาฉันไปพบผู้ก่อเหตุ และสอบสวนอย่างมืออาชีพ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชื่นชมคุณซันเดย์ ผู้ซึ่งช่วยเหลือทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยร่วมกับตำรวจไทย

ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนจากครอบครัวยากจน ฉันซึ่งเป็นครูและทำงานร่วมกับเยาวชน เข้าใจถึงความเครียดและแรงกดดันที่พวกเขาเผชิญ จึงขอร้องให้ตำรวจเพียงตักเตือน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกกับนักท่องเที่ยวคนใด คนไทยคือคนขยัน และนี่คือเหตุผลที่เรากลับมาเที่ยวประเทศไทยปีละ 2-3 ครั้ง เรารักดินแดนแห่งรอยยิ้ม และรักหัวหินมากยิ่งขึ้นในวันนี้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ