
ราชกิจจาฯ ประกาศแบงก์ชาติ ยกระดับความปลอดภัย ออกมาตรการสำคัญ มีผลภายใน 30 วัน
วันที่ 11 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ 4/2568 เรื่อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ สำหรับสถาบันการเงิน
เหตุผลในการออกประกาศฉบับดังกล่าว ระบุว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) มีบทบาทสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน
โดยเฉพาะการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันของสถาบันการเงินแก่ผู้ใช้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (บริการ Mobile Banking) ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันการให้บริการ Mobile Banking ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (cyber threat) และภัยทุจริตทางการเงิน (fraud) ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและใช้เทคนิควิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้น อันอาจสร้างความเสียหายต่อผู้ใช้บริการในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงินของประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันภัยทุจริตดังกล่าว จึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
เพื่อยกระดับการให้บริการ Mobile Banking ให้มีมาตรฐานขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนแอปพลิเคชั่นของสถาบันการเงินให้เป็นไปอย่างปลอดภัย เท่าทันความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริตทางการเงินที่มีการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (Unauthorized Payment Fraud)
โดยสถาบันการเงินที่ให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีหน้าที่ต้องติดตามดูแลและปรับปรุงระบบงานและบริการ Mobile Banking ให้มีความมั่นคงปลดภัยตามมาตรฐานสากล
เท่าทันภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริตรูปแบบใหม่ที่มีเทคนิคขับซ้อนขึ้น ครอบคลุมทั้งในส่วนของระบบการให้บริการของสถาบันการเงิน และความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการ
ขณะที่ หลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ประกอบด้วยมาตรการ 2 ส่วน ได้แก่
การป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (Unauthorized Payment Fraud)
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริการ Mobile Banking
สำหรับมาตรการสำคัญที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุไว้ในประกาศฉบับดังกล่าว เช่น
จำกัดการใช้งานโมบายแบงกิ้ง 1 คน 1 เครื่อง
เพิ่มการยืนยันตัวตนในธุรกรรมที่กำหนด เช่น โอนเงินครั้งละ 50,000 บาทขึ้นไป หรือโอนเงินวันละ 200,000 บาทขึ้นไป
กำหนดวงเงินสูงสุดต่อวัน ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ เช่น ผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 15 ปี กำหนดวงเงินสูงสุดที่ 50,000 บาทต่อวัน
การรักษาความปลอดภัยของระบบโมบายแบงกิ้ง
ทั้งนี้ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ยกเว้นกรณีตามข้อ 5.3.2 (3.3) ที่ระบุว่า “หลีกเลี่ยงการให้บริการ Mobile Banking ของสถาบันการเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่หน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับ
เช่น Thailand Banking Sector Computer Emergency Response Team (TB-CERT) กำหนดว่า มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ หรือการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ…” ให้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป