วันที่ 8 ก.พ. 2568 พ.ต.ท.ศิริ จันทร์ดีศรี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้กองฟางข้าวที่กองอยู่ภายในตัวบ้านชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง ฝาบ้านอิฐบล็อก ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงต่อเติมบ้านยังไม่แล้วเสร็จ มีควันขโมงขึ้นสู่ท้องฟ้า ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ชัยภูมิ เร่งเข้าตัดกระแสไฟฟ้าบ้านหลังเกิดเหตุ

โดยเพลิงลุกไหม้กองฟางข้าวแห้งอัดแท่งกว่า 100 ก้อน และมีรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ห้วยต้อน, อบต.นาฝาย และ อบจ.ชัยภูมิ รวม 3 คัน ระดมฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ชาวบ้าน และกู้ภัยฯ ต้องช่วยกันใช้คราดเขี่ยกองฟางข้าว และระดมฉีดน้ำดับเพลิงต่อเนื่องให้กองฟางข้าวเปียกน้ำ อีกกว่า 30 นาที่ จึงดับเพลิงได้ทั้งหมด

ทาง นางสุจิตรา อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเพิ่งซื้อบ้านมาจากเพื่อนบ้าน เตรียมจะมาบูรณะปรับปรุง และได้นำฟางข้าวแห้งอัดแท่งกว่า 100 ก้อน มาเก็บไว้ให้วัว-ควายกินในช่วงหน้าแล้ง เมื่อช่วงเช้าตนได้ออกไปทุ่งนา หลังจากนั้นทางเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ไฟไหม้บ้านของตน ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 100,000 บาท

นางสมคิด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านหลังเกิดเหตุ เล่าว่า ตนเห็นเพลิงลุกไหม้ท่วมบ้านหลังดังกล่าว หลังจากนั้นมีเด็กชาย 2 คน ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านอายุประมาณ 9 ขวบ วิ่งออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว และตะโกนถามว่าใครจุดไฟ ซึ่งเด็กทั้ง 2 คน บอกว่า อยากรู้หากใช้ไฟแช็กจุดกองฟางแล้วจะเป็นอย่างไร จึงได้ลองใช้ไฟแช็กจุดดู เมื่อเกิดไฟลุกท่วมก็ได้วิ่งหนีไป