วันที่ 2 ก.พ. 2568 ชุดสืบสวนกองปราบปรามบุกรวบลูกจ้างสาวบริษัทนำเข้าผักผลไม้จากต่างประเทศคาบ้าน หลังเจ้าของบริษัทตรวจสอบยอดขายย้อนหลัง 2 ปี มีถึง 250 ล้านบาท แต่กลับมีเงินเข้าบริษัทเพียง 100 ล้านบาท หายไปกว่า 150 ล้านบาท สอบถามทีมพนักงานขายเกือบ 10 คนพากันบ่ายเบี่ยงจะตอบคำถาม โร่แจ้งความกองปราบฯจนออกหมายจับทั้งหมด สอบสวนผู้ต้องหาสาวที่ถูกรวบคนแรกให้การปฏิเสธ เร่งล่าที่เหลือมาดำเนินคดีแล้ว

โดยตำรวจกองปราบฯรวบแก๊งลูกจ้าง น.ส.ปนัดดา น อายุ 30 ปี หน้าบ้านเลขที่ 52/1 หมู่ 3 ต.หนองบ่มกล้วย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 473/2567 ลงวันที่ 20 มิ.ย.2567 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 175/2565 ลงวันที่ 30 มี.ค.2565 ข้อหาร่วมกัน ลักทรัพย์นายจ้าง หรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้บริหารบริษัทเหยา ลาง เทรดดิ้ง จำกัด ผู้เสียหาย ประกอบธุรกิจ นำเข้าสินค้าประเภทผักและผลไม้สดจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทย ส่งทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ว่า กลุ่มลูกจ้าง ของบริษัทตำแหน่งพนักงานขายเกือบ 10 คน มีหน้าที่ติดต่อลูกค้าที่สั่งซื้อผักผลไม้จากบริษัท รวมถึงติดตามการชำระเงินค่าซื้อสินค้าด้วย ตามระเบียบ บริษัท การชำระเงินค่าสินค้าต้องโอนเงินเข้าบัญชี บริษัทเท่านั้น ด้วยความที่หลายคนทำงานมานาน การตรวจสอบจึงไม่ได้เข้มงวดมากนัก

ต่อมา ผู้เสียหายตรวจสอบบัญชีพบว่า ช่วงเดือน ธ.ค.62-เม.ย.64 ยอดเงินการชำระค่าสินค้าไม่ตรง กับหลักฐานการขาย ยอดขายจริงจากการติดต่อลูกค้า ของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด มียอดรวมกว่า 250 ล้านบาท แต่กลับมีเงินชำระค่าสินค้าผักผลไม้จากต่างประเทศเข้ามาเพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น หลังจากตรวจสอบพบ ให้กลุ่มผู้ต้องหาเข้ามาชี้แจงเรื่องดังกล่าว กลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา

ทำให้เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันอมเงินค่าขายผักผลไม้ของบริษัท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้านบาท เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาล ออกหมายจับลูกจ้างทั้งหมดเกือบ 10 คน น.ส.ปนัดดา เป็นผู้ต้องหารายแรกในกลุ่มที่ตามจับกุมได้

สอบสวนเบื้องต้น น.ส.ปนัดดาให้การปฏิเสธ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดี และส่งชุดสืบสวนตามจับกุมแก๊งลูกจ้างอมเงินนายจ้างกว่า 150 ล้านบาทที่เหลือต่อไป