วันที่ 27 ม.ค. 2568 พบผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ 1 ราย ที่บริเวณแก้มลิง เขื่อนวังร่มเกล้า ฝั่งบ้านดอนหวาย อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ทางด้าน พ.ต.ท.อัคนิตย์ เกตุมณี ร้อยเวร สภ.ทัพทัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดกู้ภัยอุทัยธานี ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า HR-V สีดำ สภาพรถจอดดับเครื่องยนต์ประตูฝั่งคนขับและฝั่งท้ายด้านเดียวกันถูกเปิดอยู่ และกระจกประตูแตก ใกล้กันกับรถพบมีหมวกกันน็อกสีดำเต็มใบตกอยู่ ด้านหน้ารถมีถ่าน 1 ถุง พร้อมด้วย กระป๋องเบียร์ 1 กระป๋อง ด้านท้ายรถมีบุหรี่ตกอยู่ 1 มวน

ตรวจสอบด้านในรถยนต์ที่บริเวณฝั่งคนขับ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงทราบชื่อคือ นางสุภัตรา อายุ 37 ปี เป็นชาวท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ สภาพนั่งเสียชีวิตอยู่หลังพวงมาลัย สวมใส่เสื้อสีแดงลายตรุษจีน สวมกางเกงยีนส์ขายาว มีเลือดออกมีจมูก ตรวจสอบด้านเบาะท้ายฝั่งเดียวกับคนขับ พบมีเตาถ่านวางอยู่ที่เบาะนั่ง สภาพถูกก่อไฟใช้งานแล้ว จึงคาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตจากการรมควันตนเองในรถยนต์ ท่ามกลางบรรยากาศที่ครอบครัวและเพื่อนๆ พากันมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจ

จากการสอบถาม นายธนาเศรษฐ์ อายุ 45 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้ตายนั้นเคยทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อบัตรเครดิต ก่อนออกมาทำงานอยู่ที่ห้างโลตัส ในจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนสามีนั้นขายข้าวมันไก่ อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ด้วยเช่นกัน โดยผู้ตายนั้นเป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับมีความเครียดสะสมจากปัญหาหนี้สินที่มีอยู่หลักล้านบาท มาตั้งแต่ช่วงโควิด

โดยก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตนั้น ตนเองติดต่อได้ครั้งสุดท้ายในช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม โดยภรรยาได้ส่งข้อความมาบอกตนเองว่า วันนี้จะกลับดึกเพราะมีประชุม หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้เลย ด้วยความกังวล จึงทำให้ตนเองตัดสินใจออกตามหาภรรยาตามที่ต่างๆที่คิดว่าผู้ตายจะไปทั้งคืน

จนถึงช่วงเช้าตนเองขับรถมาถึงที่เขื่อนวังร่มเกล้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนเองกับภรรยาชอบมาที่นี่ด้วยกันเป็นประจำ จนมาพบว่ารถของภรรยาจอดอยู่ที่นี่จริง โดยรถนั้นล็อกอยู่ ตนเองจึงตัดสินใจทุบกระจกรถยนต์ด้านซ้ายฝั่งคนขับเพื่อปลดล็อกประตู พอเปิดออกมาก็พบว่า ภรรยานั้นเสียชีวิตไปแล้ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยัง นิติวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อช่วยตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง