จากกรณีเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 23 มกราคม ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ซุปเปอร์คาร์เฉี่ยวชนกับรถกระบะมีผู้บาดเจ็บ บนถนนเส้นสิงหวัฒน์ฝั่งขาออกเมือง หน้าร้านครัวลูกสาวกุ้งแก้ว หมู่ 3 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก

หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุพบรถซุปเปอร์คาร์ลัมโบร์กีนี รุ่นฮูราแคน อีโว สีเขียว ทะเบียนป้ายประมูล คาดว่าราคาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท สภาพตัวรถพังยับเยินเป็นเศษเหล็ก แต่ไม่พบตัวคนขับแต่อย่างใด มีเพียงกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาทอยู่ในรถ ระบุชื่อตามบัตรประชาชน คือ นายอนวัช อายุ 36 ปี

นอกจากนี้ ยังมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ แบบ 2 ประตู สีดำ ทะเบียน 1 ฒผ 3515 กรุงเทพมหานคร สภาพพุ่งชนกับหน้าร้านดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยมีนายเอกพงษ์ อายุ 32 ปี ชาว จ.มหาสารคาม เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและหัวไหล่ กู้ภัยให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพิษณุเวช

ด้าน น.ส.ทองพูน อายุ 60 ปี ผู้มารับจ้างดูแลร้านค้าที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่น จึงออกมาดู และพบว่าคนขับรถลัมโบร์กีนีเดินออกมาจากซากรถหน้าตาเฉยไม่เป็นอะไรเลย ก่อนจะโทรให้คนขับรถเก๋งมารับตัวหายไปจากที่เกิดเหตุทันที ส่วนคนขับกระบะนั้นขับมาเพียงลำพังได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมากและถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย และร้านที่ตนดูแลก็ได้รับความเสียหายกระจกบานใหญ่แตก เสาหัก หลังคาพังยับ

ล่าสุด ขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายเลย ซึ่งตนจะแจ้งไปยังเจ้าของร้านให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับเจ้าของรถลัมโบร์กีนีคันประสบเหตุ ถือว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงบริษัทใหญ่ชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.พิษณุโลก เคยประสบอุบัติเหตุขับรถหรูปอร์เช่ รุ่นพานาเมรา มูลค่าร่วม 5 ล้านบาท พุ่งชนเสาไฟฟ้าริมทางจนไฟลุกท่วมทั้งคัน แต่เจ้าตัวก็รอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกในครั้งนี้ ซึ่งจุดเกิดเหตุก็ไม่ไกลกันนักกับจุดเกิดเหตุในครั้งแรกเมื่อปี 2567