
ม.สยาม แจง คอร์สอบรมตร.อาสาคนจีน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 มกราคม ที่มหาวิทยาลัยสยาม นายพรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัย แถลงข่าว กรณีการอบรมหลักสูตร “อาสาตำรวจคนจีน” ที่มีการอ้างถึงมหาวิทยาลัยสยามมีความร่วมมือกับสำนักงานสืบสวนกลาง กองบังคับการนครบาลภาค 3 โดยมีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ 38,000 บาท ว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสของมหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหายในการแถลงเรื่องดังกล่าว เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว มหาวิทยาลัยได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยเคยดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการช่วยเหลือประชาชนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือตำรวจจราจร ตำรวจกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งเรื่องต่างๆ ที่ดำเนินการมาไม่เคยมีปัญหา เนื่องจากทำไปตามขั้นตอน แต่ครั้งนี้มีปัญหา เพราะมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งกรรมการได้เริ่มสอบสวนตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวน
นายพรชัยกล่าวต่อว่า ผลการสอบสวนปรากฏว่า 1.การอบรมหลักสูตรอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าวเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดยบุคคลภายนอกที่รู้จักฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายนอกในการจัดทำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 โดยมี Dr.Li ZHANG อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดอบรม เพื่อให้ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมและการดูแลตนเองแก่นักศึกษาจีนและบุคลากรของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวไม่ได้เสนอขออนุมัติจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยามแต่อย่างใด
2.จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดอบรมที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2567 โดยในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 มีการเปิดอบรมที่ห้องเรียน 1006 อาคาร 12 มหาวิทยาลัยสยาม ซึ่งการเปิดอบรมดังกล่าวไม่ได้เสนอขออนุมัติใช้สถานที่จากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด สำหรับในวันที่ 26-27 ธันวาคม 2567 เป็นการอบรมนอกสถานที่ มิได้มีการอบรมในมหาวิทยาลัย และการไปอบรมนอกสถานที่ดังกล่าว นักศึกษาจีนและบุคลากรของมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เสนอขออนุมัติเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
3.หนังสือขอความร่วมมือในการจัดทำโครงการดังกล่าวไปยังผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เป็นหนังสือที่ร่างและจัดทำขึ้นมาจากบุคคลภายนอก แต่มีการลงนามโดย Dr.Li ZHANG นั้น เป็นการใช้ตำแหน่งที่มิได้แต่งตั้งเป็นทางการตามคำสั่งของมหาวิทยาลัย และผู้ลงนามได้ลงนามไปโดยพลการไม่ได้เสนอขออนุมัติจากมหาวิทยาลัยก่อน อีกทั้งหนังสือดังกล่าวก็ไม่ได้ดำเนินการผ่านระบบสารบรรณของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ต่อมากองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้มีหนังสือตอบรับไปยัง Dr.Li ZHANG เพื่อจัดส่งวิทยากรไปร่วมโครงการด้วย ซึ่งถ้าดูจากจดหมายเชิญเหล่านั้นจะเห็นได้ว่ามีลักษณะที่ไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่มหาวิทยาลัย หรือชื่อมหาวิทยาลัยที่ใช้คำว่ามหาลัย และผู้ที่ลงนามไม่ได้เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากอธิการบดีหรือผู้บริหารแต่อย่างใด
4.สำหรับการเก็บเงินค่าลงทะเบียนเข้าร่วมอบรม จำนวน 38,000 บาท ตามที่เป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ นั้น Dr.Li ZHANG ยืนยันว่านักศึกษาจีนและบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการอบรมทั้งหมด ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนแต่อย่างใด ประกอบคำยืนยันจากการสัมภาษณ์นักศึกษาจีนและบุคลากรประจำของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการอบรมดังกล่าว ส่วนการเก็บเงินค่าลงทะเบียนจากบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมการอบรมดังกล่าวด้วยนั้น Dr.Li ZHANG แจ้งว่าไม่ได้รับทราบมาก่อน เป็นการดำเนินการของบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย และเงินดังกล่าวก็มิได้เข้ามาในระบบการเงินของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด อีกทั้งมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการจ่ายเงินให้แก่วิทยากรและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกิจกรรมที่จัดขึ้น 5.ส่วนเรื่องการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมตามโครงการ ตลอดจนการมอบประกาศนียบัตร การเตรียมอุปกรณ์เพื่อแจกให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ เช่น หมวก เสื้อกั๊ก ป้ายคล้องคอ Dr.Li ZHANG แจ้งว่า บุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มหาวิทยาลัยสยามต้องถือว่าเป็นผู้เสียหายด้วย เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการ แต่เป็นการดำเนินการโดยพลการของบุคลากรมหาวิทยาลัยร่วมกับบุคคลภายนอก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก จากนี้มหาวิทยาลัยจะดำเนินการทางวินัย และลงโทษบุคลากรตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2563 และจะดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยสยามโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 และจะวางมาตรการในการป้องกันต่อไป ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเสียใจที่เรื่องนี้เกิดขึ้น และกระทบกับความรู้สึกของประชาชน มหาวิทยาลัยสยามมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 1 พันคน นักศึกษาจีนเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากนักศึกษาทั้งหมดกว่า 50 ประเทศ มหาวิทยาลัยยินดีที่จะร่วมมือกับทุกคนในการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมในอนาคต