เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 2 หรือ ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งจาก นายกฤช พิทักษ์คุมพล เจ้าของเรือประมง อ.กฤช 11 ว่าเรือประมงซึ่งมีระวางขับน้ำ 49.37 ตันกรอส มีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือ จำนวน 7 คน ได้อับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา เป็นระยะทางประมาณ 76 กิโลเมตร จึงได้ประสานขอรับการสนับสนุนกำลังในหน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล ทัพเรือภาคที่ 2 ให้ไปช่วยเหลือ

ทางพลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2และ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค2 จึงได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (DO-227) เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 (S-76B) และ เรือหลวงปัตตานี พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกปฎิบัติการช่วยเหลือ

โดยจุดแรกที่เฮลิคอปเตอร์ออกบินค้นหาจนไปพบลูกเรือลอยคออยู่ในทะเลและสามารถช่วยเหลือได้ 4 คน โดยใช้สลิงดึงขึ้นมาจากทะเลมาบนเฮลิคอปเตอร์ และมากลับเข้าฝั่งที่สนามบินฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 ได้อย่างปลอดภัย

และได้ออกค้นหาต่อ จนพบลูกเรือประมงลอยคอยอยู่ในทะเลเพิ่มอีก 1 คน และช่วยขึ้นมาได้ ส่วนอีก 2 คนยังไม่พบ โดยทั้งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินลาดตระเวน และเรือหลวงปัตตานี ยังคงไม่ยุติภาระกิจและออกลาดตระเวนค้นหาจนกว่าจนพบลูกเรือที่้เหลืออีก 2 คน

สำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือประมงในครั้งนี้ซึ่งสามารถออกไปช่วยเหลือลูกเรือประมงได้อย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากการเตรียมความพร้อมและการซักซ้อมแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งบนบกและในทะเลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที