สาวใช้แสบ ร่วมมือ จนท.ฝ่ายทะเบียน ปลอมเอกสารรับบุตรบุญธรรม ฮุบมรดก 500 ล้าน

สาวใช้แสบ ร่วมมือ จนท.ฝ่ายทะเบียน ปลอมเอกสารรับบุตรบุญธรรม ฮุบมรดก 500 ล้าน

วันที่ 10 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานสายไหมต้องรอด เขตสายไหม นางสาวธัญญรส (สงวนนามสกุล) อดีตลูกจ้างฝ่ายทะเบียนอำเภอเมืองสมุทรสาคร เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากราชการ เหตุเพราะพูดความจริง กรณีสาวใช้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอ ปลอมแปลงเอกสารราชการ รับบุตรบุญธรรม

นางสาวธัญญรส กล่าวว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างฝ่ายทะเบียน อำเภอเมืองสมุทรสาคร มานานกว่า 10 ปี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 ได้มีข่าวเรื่องการรับบุตรบุญธรรม ในลักษณะเศรษฐีนี รับสาวใช้เป็นบุตรบุญธรรม ยกมรดก 500 ล้านให้ ต่อมาครอบครัวเศรษฐีนี ได้มีการร้องให้ตรวจสอบเอกสารการรับบุตรบุญธรรม ดังกล่าว ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเมื่อตนได้เห็นข่าว จึงได้มีการค้นหาเอกสาร เนื่องจากตนเองมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจดทะบียนรับบุตรบุญธรรม แต่ก็รู้สึกเอะใจว่า ไม่คุ้นกับเคสนี้เลย และก็เป็นอย่างที่คิด

เมื่อค้นหาเอกสารจนเจอ จึงพบว่าเอกสารการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว เป็นเท็จ แน่นอน เนื่องจากตนพบว่า ในเอกสารการรับบุตรบุญธรรม มีชื่อตนลงชื่อเป็นพยาน ทั้งที่ในข้อเท็จจริง ตนมีหน้าที่ในการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ตนจะลงชื่อในฐานะเจ้าหน้าที่ ที่รับจดทะเบียน จะต้องไม่ไปลงชื่อในฐานะพยาน ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เรื่องการลงลายมือชื่อเป็นเท็จ

ต่อมาหลังจากมีการแจ้งความ ได้มี จนท.ฝ่ายทะเบียนของอำเภอ 3 คน มาพูดคุยกับตน พร้อมกับขอร้องให้ตนถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอมเพราะเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ต่อมาศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สมุทรสาคร ได้มีหมายเรียกตนไปเป็นพยานเรื่องการลงลายมือชื่อเป็นพยานในเอกสาร ซึ่งตนได้เบิกความยืนยันไปว่าการลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวเท็จ ต่อมาต้นปี 2567 ศาลได้มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนการจดรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว ทำให้สาวใช้ไม่มีสิทธิรับมรดกกว่า 500 ล้าน

หลังจากนั้นตนคิดว่าจบเรื่องแล้ว จึงกลับมาทำงานตามปกติ ต่อมาปลายปี 67 ตนถูกประเมินจากเพื่อนร่วมงานว่าขาดจริยธรรมในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน จึงถูกให้ออกจากราชการ ซึ่งตนเชื่อว่าการประเมินดังกล่าว เป็นผลมาจากที่ตนเองไปให้การเป็นพยานในคดีปลอมเอกสารรับมรดกกว่า 500 ล้าน อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้ใหญ่บางคนเสียผลประโยชน์

ที่สำคัญ คนที่ปลอมลายมือชื่อของตน ได้ไปยอมรับในชั้นศาลว่า เป็นคนปลอมลายมือชื่อ แต่ปัจจุบันยังคงทำงานที่อำเภอตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมงานจึงแนะนำให้มาร้องขอความช่วยเหลือกับ เพจสายไหมต้องรอด

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ