จากกรณีที่มีข่าวการเสียชีวิตของ ผิง ชญาดา นักร้องสาวจากค่าย Guitar Record จากไปหลังจากที่ไปนวดแผนโบราณลดอาการปวดเมื่อย และหมอนวดได้นวดบิดคอ จนเกิดอาการกระดูกคอเคลื่อนกลับมา ทับเส้นประสาท แขนกระตุกตลอดเวลา คันทั้งที่ไม่มีตุ่มอะไร ชาครึ่งซีก ตั้งแต่หัวไปเท้า อ่อนแรงยกของไม่ขึ้น ปวดลามไปทั้งตัว กระตุกจนทำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะอาการหนัก ติดเชื้อในกระแสและช็อกจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนที่จะจากไปในช่วงเช้าวันที่ 8 ธ.ค.

ล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค. 2567 นายภูมิณรงค์ หรือ อาร์ม อายุ 22 ปี แฟนหนุ่มของ ผิง ชญาดา เดินทางมาจุดธูปหน้าโลงศพแฟนสาว โดยเจ้าตัวถึงกับน้ำตาคลอเสียงสั่น บอกสาวคนรักว่า เธอ ไปดีเด้อ ไม่ต้องห่วงเขา เขาจะสู้เพื่อเธอ น้องอาร์ม เล่าว่า คบกับผิงมาได้ 3 ปี ผิงเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ตนก็เป็นนักดนตรี ส่วนผิงเป็นนักร้องอยู่วงเดียวกัน ก่อนผิงจะเสียชีวิต

ตนเคยพา ผิง ไปนวดที่ร้านในหนองประจักษ์ กลับมาก็ไม่มีปัญหา ผ่านไป 2 อาทิตย์ ก็พาไปนวดอีก เนื่องจากมีอาการปวดเหมือนเดิม โดยไปนวดร้านเดิม หลังจากนวดรอบที่ 2 ผิงเริ่มมีอาการชาใต้ราวนม หยิกหรือจับไม่มีความรู้สึก จากนั้นเริ่มชาแขนด้านขวาและไปนวดอีกเป็นครั้งที่ 3 ที่เดิม โดยหลังนวดครั้งที่ 3 กลับมามีอาการแขนชามากขึ้นและชาร้าวลงขา แม่ก็พาไปรักษาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ มารู้อีกทีก็แฟนถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลอุดรธานี จนสุดท้ายเสียชีวิตเมื่อเช้าวันนี้

แฟนหนุ่มน้องผิงพูดไปเสียงสั่นไป บอกอีกว่า คำพูดสุดท้ายที่ผมจำได้และได้พูดกับผิงคือ เธอเขารักเธอนะ เขาจะรอเธอนะ เขาไม่ทิ้งเธอนะ วันต่อมาน้องผิงก็ถูกย้ายตัวเข้าไปห้องไอซียู แล้วก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย หากเวลาย้อนกลับไปได้ รู้และว่าไปนวดแล้วผิงจะมีอาการแบบนี้ จะเป็นแบบนี้ ตนก็จะไม่พาไป

ตอนนี้รู้สึกอยากจะโทษตัวเอง ที่พาแฟนสาวไปนวดแล้วเป็นแบบนี้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น สาเหตุที่ผิงเสียชีวิตนั้น ผมคิดว่าน่าจะมาจากการนวดแน่นอน เพราะปกติแฟนสาวไม่มีโรคประจำตัว โดยผลเอกซเรย์ของหมอ ระบุว่ากระดูกต้นคอเคลื่อนตั้งแต่แรกๆ อยากจะฝากบอกหมอนวดว่า ถ้าหากคิดว่านวดท่าดัดคอแล้วจะทำให้มีคนเสียชีวิตไม่ควรทำจะดีกว่า