ลุงให้อาหารนกพิราบ 200 ตัว ชาวบ้านเดือดร้อน หวั่นติดเชื้อ

ลุงให้อาหารนกพิราบ 200 ตัว ชาวบ้านเดือดร้อน หวั่นติดเชื้อ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์คลิป ขณะคุณลุงตี๋ หรือนายแสงชัย ได้มีปากเสียงกับชาวบ้านเรื่องการให้อาหารนกพิราบกว่า 200 ตัว โดยโพสต์ระบุข้อความว่า “พฤติกรรมคือจะให้อาหารนกบนถนนในหมู่บ้านทั้งหน้าบ้านตัวเองและหน้าบ้านของเพื่อนบ้านข้างเคียงในซอยตอนเช้าทุกวัน สร้างความเดือดร้อนเรื่องขี้นกที่เลอะเทอะหลังคาบ้าน ถนน สายไฟ และรถที่จอดในซอยตลอดแนว จะมีกลิ่นขี้นกที่สะสมทุกวัน เกิดความความสกปรกและละอองขนนก เพื่อนบ้านข้างเคียง มีทั้งเด็กเล็กและผู้ป่วยได้รับความเดือดร้อนในการพักอาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงกับนายแสงชัย กลัวเชื้อโรคและการเกิดโรคติดต่อ ข้างบ้านได้มีการรวมตัวกันร้องเรียนไปที่เทศบาลนนทบุรีแล้วหลายรอบ เจ้าหน้าที่เทศบาลมาตรวจสอบและถ่ายภาพ พร้อมกับบันทึกวีดีโอเทปเป็นหลักฐานขณะมีให้อาหารนก เจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนให้นายแสงชัยหยุดการกระทำ แต่นายแสงชัยไม่เชื่อฟัง ยังมีการให้อาหารนกต่อหน้าเจ้าหน้าที่ และท้าทายให้เอาเรื่องยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด

หมู่บ้านชัยวิวัฒน์4 ซ.ติวานนท์ 13 แยก 3 ม.8 ต.บางกระสอ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าภายในซอยเป็นบ้านทาวเฮาส์ปลูกติดกันประมาน 22 หลังคาเรือน 2 ฝั่ง บริเวณกลางซอย พบนกพิราบประมาณ 200 ตัว บินเกาะผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอกินอาหาร หน้าบ้านของนายแสงชัย หรือชาวบ้านเรียกว่าตาตี๋ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นผู้ให้อาหารนก ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณพื้นถนนจุดที่ให้อาหารซึ่งเป็นบริเวณกลางซอยหน้าบ้านของตัวเอง บนขอบถนนบ้านตรงข้ามลงตี๋พบร่องรอยเศษขี้นกอยู่เล็กน้อย ขณะเดียวกันชาวบ้านบางรายมีการนำป้ายมาติดเขียนข้อความว่า “อย่าให้อาหารนกหน้าบ้านฉัน”

นายแสงชัย หรือลุงตี๋ กล่าวว่า ความสกปรกเป็นวลีที่ชาวบ้านสร้างขึ้น มาดูที่เกิดเหตุก็เห็นว่าบ้านสะอาด พื้นที่สะอาด หลังคาสะอาด นกจำนวนเยอะได้มีโอกาสกินอาหารแล้วบินจากไป ดีกว่านกแค่จำนวนเล็กน้อย แค่ไม่กี่นาที 5-7 นาที นกกินอาหารเสร็จก็บินไป ตนจะคอยเก็บทำความสะอาดเพราะเป็นคนมีความรับผิดชอบในการช่วยเหลือสัตว์ ตนให้อาหารนกช่วงประมาณ 08.45 น. ให้อาหารเม็ดต่อครั้งประมาณ 2 กิโลกรัม วันละครั้งเท่านั้น และตนก็จะทำความสะอาดทั้งหมด ตนมีน้ำใจ และรับผิดชอบต่อพื้นที่ ส่วนคนที่ไม่ชอบก็จะสร้างวลีขึ้นมา เช่น คำว่าสกปรกหรือเชื้อโรค

ตนเพิ่งให้อาหารนกมาร่วม 1 ปี แรกๆนกไม่ได้เยอะขนาดนี้ เมื่อก่อนมีซอยถัดไปคือซอย 4 ที่ให้อาหารนกมาร่วม 20 ปี ซึ่งพอเขาย้ายออกไปนกก็เลยมาอยู่ตรงนี้ ตนรู้จักคนที่เคยให้อาหารนกและแมวที่อยู่ซอย 4 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับลูกที่อื่น การให้อาหารนกถือว่าเป็นความสุขพื้นฐานแต่ก็ต้องมาเสียเงินหลักพันเพื่อซื้ออาหารให้นก ทำความสะอาดขี้นกทุกวัน ต้องคอยสู้กับคนที่ต่อต้าน บางคนไม่ชอบก็อยู่ในบ้าน บางคนก็ออกมาเคาะนั่นนี่ให้นกตกใจ ค่าอาหารเดือนนึงตกประมาณ 2,000 บาท ถ้าจะให้ตนหยุดให้คงยาก คนมีเมตตา ก็คงให้อาหารนกจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ใครจะมาบอกว่าคนเกลียดทั้งหมู่บ้านตนก็ไม่สนใจ

ตนช่วยสิ่งที่มีชีวิตอยู่ หากตนไม่คุยกับเพื่อนบ้านก็แค่ต่างคนต่างใช้ชีวิตปกติแต่หากตนไม่ให้อาหารนกนกก็คงไม่มีอะไรกิน ตนให้อาหารหน้าบ้านตนไม่ใช่หน้าบ้านคนอื่น เท่าที่ตนสังเกตคือนกพิราบเป็นสัตว์ที่มีชีวิต แต่ก็มีแต่คนรังเกียจ ถ้าไม่ให้อาหารนกพิราบแล้วมันจะไปหากินที่ไหน ถ้ากลัวเชื้อโรคก็ป้องกันโดยการใส่แมสก์ ล้างมือ ตนไม่ได้กลัวนกและใส่แมสก์มาตั้งแต่ช่วงมีโควิดแล้ว ตอนนี้ก็ให้รอคำสั่งศาลมาสั่งก่อนว่าห้ามเลี้ยง หรือให้อาหารนก ตนถึงจะยอมเลิกให้

น.ส.ดา อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านอยู่ติดกับบ้านลุงตี๋ กล่าวว่า ตนเดือดร้อนเพราะลุงตี๋ให้อาหารนกพิราบช่วงเช้าและจะมาบินอยู่บริเวณหน้าบ้านจำนวนมาก ประมาณ 200 ตัว และมีฝุ่นขาวๆกระจายเต็มไปหมด ตนกลัวจึงต้องรีบปิดประตูเข้าบ้านเพราะนกพิราบมีเชื้อโรค ขนนกเต็มทั้งซอย ตนไม่ชอบเพราะมันสร้างความเดือดร้อนเนื่องจากมีเชื้อโรค ตนเดือดร้อนมาเป็นปีจนไม่รู้ว่าจะทำวิธีไหนแล้ว ตนต้องอยู่ในบ้านปิดประตูตลอดทุกวัน อยากจะเปิดประตูบ้านออกมาก็ไม่ได้เพราะกลัวเชื้อโรค

ตนไม่เคยทะเลาะกับลุงตี๋และเพื่อนบ้านกันมานาน ลุงตี๋เป็นคนดีมีน้ำใจ แต่เรื่องนกตนพูดอะไรก็ไม่ฟัง เขาจะอ้างว่านกมันหากินเองไม่ได้ แต่ทุกคนทราบใช่ไหมว่านกมีเชื้อโรค เราได้รับความเดือดร้อนตรงนี้ื ถ้ามันไม่มีเชื้อโรคเราคงไม่ไปห้ามอะไร เพื่อนบ้านในหมู่บ้านคุยกับลุงตี๋ทุกคนว่าอย่าให้อาหารนกพิราบ แต่ลุงตี๋ก็จะมาว่าพวกเราว่าเป็นคนไม่มีน้ำใจ ใจแคบ เขามีน้ำใจอยู่คนเดียว ตอนนี้ในซอยทั้ง 22 หลังคาเรือน เดือดร้อนกันหมด และอีกหลายซอย เพื่อนบ้านต่างสงสารซอยบ้านเราว่าทำไมทำไมถึงปล่อยให้ลุงตี๋ให้อาหารนกพิราบอยู่แบบนี้ มันมีเชื้อโรค

ชาวบ้านในหมู่บ้านไปแจ้งเทศบาลเทศบาลกันมาหลายรอบแล้ว มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาถ่ายรูปแต่ไม่รู้ว่าดำเนินการยังไงต่อ ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการให้เนื่องจากตนไม่อยากอยู่กับเชื้อโรคแบบนี้ มีเด็กเด็กอยู่ในหมู่บ้านจำนวนมากหากติดเชื้อก็จะรักษายาก ช่วยเห็นใจพวกเราหน่อย บางบ้านคนแก่นอนป่วย เครียดกันมาตลอด

น.ส.เอ็ม อายุ 60 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ตนเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายละอองเชื้อโรคนกพิราบมันเข้ามาในบ้านของตน อยากให้หน่วยงานมาจัดการไม่ให้ เลี้ยงนกตนอยากมีชีวิตอยู่นานๆ ถ้าไม่จัดการเรื่องนกตนคงต้องตาย ตนมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ตอนนี้หลังคาบ้านมีแต่ขนนกขี้นก คนที่ให้อาหารนกบอกว่าพระเจ้าสั่งมาว่าให้อาหารนกเขานับถือศาสนาคริสต์ถนนเป็นของพระเจ้า บ่าย3 โมงไปเลี้ยงนกพิราบที่ซอย 4 ตอน 8 โมงเช้ามาเลี้ยงที่หน้าบ้านตน หน่วยงานเทศบาลเข้ามาดูถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ ตอนนี้เดินไปไหนไม่ได้ต้องใส่แมส ค่าน้ำก็เพิ่มขึ้นต้องมาฉีดน้ำล้างขี้นกทุกวัน ตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ

ส่วนทางด้านภรรยา ของลุงตี๋ เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับนกพิราบไปให้หมด แต่ตนพูดกับผัวตนไม่ได้เพราะคนให้อาหารดื้อ คนทั้งหมู่บ้านด่าก็ทำหัวทวนลม คนในครอบครัวพูดเตือนไม่รู้กี่รอบแล้วไม่ฟังแล้วก็ไม่ฟัง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ