เปิดสาเหตุไฟไหม้ โกดังหมอลำเสียงอิสาน แม่นกน้อย อุไรพร ตำรวจเตรียมดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 22 เมษายน2567 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้โกดังเก็บของภายในบ้านพักหมอลำ นกน้อย อุไรพร เสียงอิสาน บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงเทศบาลตำบลหนองนาคำตำบลหนองบัวรุดไปที่เกิดเหตุ
พบเพลิงกำลังลุกไหม้หญ้าแห้งลามไปไหม้โกดังเก็บของสำหรับใช้ในการแสดงหมอลำซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักแม่นกน้อย อุไรพร ประมาณ 200 เมตร ซึ่งภายในโกดังมีทั้งกล่องพลาสติก ผ้าโฟม ไม้ฉาก อุปกรณ์การแสดงซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วป ระกอบกับมีลมกระโชกมาเป็นระยะเพลิงได้ลุกลามไหม้โรงรถหรือเวทีไลฟ์สด ซึ่งมีรถกระบะ 5 คัน รถเก๋ง 3 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำสกัดไว้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ายังมาไม่ถึงทำให้ไฟลุกลามไหม้ป่าไผ่อย่างรวดเร็ว ประกอบกับโรงรถซึ่งเป็นห้องไลฟ์สดมีโฟมติดฝาผนังเพื่อเก็บเสียงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไม่ได้จึงต้องประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครอุดรธานี เทศบาลตำบลหนองสำโรง และรถดับเพลิง7ปภ.14รวม 10 คันมาช่วย เมื่อเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าอุดรธานีมาถึงได้ตัดกระแสไฟฟ้าจึงฉีดน้ำสกัดเพลิงเต็มที่ไม่ให้ลุกลามไปเวทีไลฟ์สดและบ้านเรือนประชาชนที่ใกล้เคียงใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่นำรถดับเพลิงออกจากพื้นที่และได้นำรถยนต์ออกมาจากโรงรถซึ่งส่วนมากเป็นรถของนักดนตรีที่เดินทางไปแสดง เจ้าหน้าที่ได้ทุบกระจกรถปลดเบรกมือเข็นรถออกจากโรงรถเพื่อตรวจสอบว่ารถคันใดเสียหายบ้างมากน้อยเพียงใดเพื่อประเมินความเสียหาย
นายศุภมิตร ฉิมหลวง อายุ 65 ปี น้องชายนายมัยกิจ ฉิมหลวง หรือพ่อหลอด สามีแม่นกน้อยเล่าว่า ตนอยู่บ้านใกล้กับบ้านพักเสียงอิสานมีคนจ้างตนมาทำความสะอาด เก็บกวาดขยะหลังมีงานแสดง ตนจึงเก็บกวาดขยะมากองไว้ข้างโกดังซึ่งขยะมีจำนวนมากและกองใหญ่เกรงว่าลมจะพัดขยะปลิว ตนจึงจุดไฟเผาขยะลมไม่แรงแต่ไฟได้ลามไปไหม้หญ้าและลุกลามไหม้โกดังเก็บชุดหางเครื่อง ลำโพง ตนอยู่คนเดียวตกใจมากควบคุมเพลิงไม่ได้ทำให้ลุกลามซึ่งลูกน้องได้โทรไปบอกแม่นกน้อยแล้วถ้าให้ตนชดใช้ค่าเสียหายก็คงไม่ไหว
นายฐานะ เสลานอก ปภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่าหลังได้รับแจ้งเหตุมีเพลิงไหม้หน่วยดับเพลิง อบต.หนองนาคำ และทั้งเทศบาลตำบลหนองบัว เทศบาลเมืองหนองสำโรง เทศบาลนครอุดรธานี และปภ.จังหวัดอุดรธานี จากการสอบถามทราบว่าเกิดจากการเผาขยะอาจมีลมพัดมาทำให้ลุกลามไปยังอาคารเก็บพัสดุควบคุมเพลิงไม่อยู่จึงได้แจ้ง ปภ.ให้มาช่วยตอนนี้ควบคุมเพลิงได้แล้วเหลือเก็บเล็กๆ น้อยๆ ส่วนความสูญเสียจะได้สำรวจต่อไป
ร.ต.ท.หญิงวิลาสินี อาษานาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางมาสอบสวนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ทราบว่าเกิดจากการเผาขยะและลุกลามไหม้โกดังและโรงรถเสียหายซึ่งยังประเมินค่าไม่ได้ต้องรอเจ้าของบ้านกลับมาก่อน ส่วนนายศุภมิตรคนเผาขยะจนลุกลามแจ้งข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย” เพื่อดำเนินการต่อไป