เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลการสอบข้อเท็จจริงตามที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ได้ปรากฏข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชน รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากได้รายงานข่าวกรณีมีสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระภิกษุ

ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะพรรคในฐานะเป็นสถาบันทางการเมือง ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรคต้องอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว โดยมีกรรมการสอบสวนประกอบด้วย นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ประธานกรรมการ นายชริน เลี้ยงกาญจนกุล และตน ได้มีการประชุมสรุปลงความเห็นเมื่อวันที่ 12 เมษายน คณะกรรมการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว ทั้งตัวสมาชิกพรรค ผู้ถูกตรวจสอบ บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพยานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตลอดจนข่าวสารจากการนำเสนอข่าว การให้สัมภาษณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีมูลความจริง ซึ่งรายละเอียดคณะกรรมการไม่ขอชี้แจงลงลึก แต่คณะกรรมการมีความเห็นว่า สมาชิกพรรคคนดังกล่าวได้กระทำผิดข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 18 ประกอบ ข้อที่ 26 ที่ได้กำหนดให้สมาชิกพรรคมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค รักษาชื่อเสียงของพรรคโดยไม่ปฏิบัติไปในทางที่จะนำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค โดยเฉพาะมาตรฐานทางจริยธรรมที่ข้อบังคับพรรคได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรคที่ต้องอยู่ในกรอบของจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ส่วนกรณีการพ้นสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกพรรคนั้น คณะกรรมการมีความเห็นว่า ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ข้อที่ 124 กรณีที่สมาชิกพรรคได้กระทำการฝ่าฝืนจรรยาบรรณของพรรคควรลงโทษสมาชิกพรรคโดยให้พ้นจากสมาชิกพรรค” นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงปรากฏสมาชิกพรรคคนดังกล่าวได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งทราบว่าทางพรรคได้รับเข้าสู่ระบบแล้วในวันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งทางคณะกรรมการจะได้นำรายละเอียดการสอบสวนทั้งหมดประกอบใบลาออกจากสมาชิกพรรค รายงานต่อหัวหน้าพรรค เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต่อไป