จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางดิจิทัล ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE นำหมายจับของศาลอาญามีนบุรีและหมายค้นของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าตรวจค้น จับกุมนายนัฐพงษ์ ศุภพิตร หรืออาจารย์น๊อตตี้ ตำหนักปู่ใหญ่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ขณะกำลังไลฟ์สดใบ้หวย ผ่านเฟซบุ๊ก ตำหนักปู่ใหญ่ อาจารย์น๊อต พาเที่ยว พร้อมยึดอาวุธปืนติดตัว โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก และรถยนต์เป็นของกลาง พร้อมได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ปลอม บิดเบือน, ร่วมกันประกาศหรือโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต

ล่าสุดที่บริเวณตำหนักปู่ใหญ่ อ.น๊อต วังพญานาค บ้านโนนสามัคคี ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และยังเป็นที่พักของ นายนัฐพงษ์ หรืออาจารย์น๊อตตี้

ทั้งนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนที่อาจารย์น๊อตตี้อยู่ แต่ก็ยังมีบรรดาลูกศิษย์ เพื่อนและญาติๆ แวะเวียนมาถามข่าวอาจารย์น๊อตตี้ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ทางผู้ดูแลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพบริเวณด้านตำหนักปู่ใหญ่ อ.น๊อต

สอบถาม นางอุไรวรรณ มาดูเอี่ยม อายุ 48 ปี ชาวบ้านโนนสามัคคี ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ แม่ค้าขายของบริเวณด้านหน้าตำหนักปู่ใหญ่ อ.น๊อต กล่าวว่า ปกติชาวบ้านมีแต่คนรักในตัวอาจารย์น๊อตตี้ เพราะเป็นคนชอบช่วยเหลือคนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังชอบช่วยงานบุญ งานประเพณี และบริจาคสิ่งของช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด

ยกตัวอย่างเช่น ตนนั้นมาขายของที่หน้าบ้านก็ไม่เคยเก็บค่าที่ ส่วนเรื่องการขายหวยนั้น เท่าที่ตนทราบ อาจารย์น๊อตตี้ไม่ได้ขายหวย และไม่ได้สนับสนุนให้ชาวบ้านทำผิดกฎหมายซื้อหวยใต้ดิน ไม่ได้หลอกลอวงใคร ทั้งนี้หลังทราบเรื่องว่าอาจารย์น๊อตตี้ถูกจับก็รู้สึกใจหาย เพราะอาจารย์น๊อตตี้เปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัว อย่างไรก็ตามหลังจากในส่วนของเรื่องคดีหรือการที่เจ้าหน้าที่มาจับนั้นตนไม่ขอพูดถึง เพราะไม่ทราบเรื่อง แต่ส่วนตัวก็ยังรัก ศรัทธา และยังเชื่อมั่นว่าในตัวอาจารย์น๊อตตี้ไม่ได้ทำผิด