นายธีรพงษ์ อายุ 47 ปี ชาวบ้านภูเวียง ม.4 ต.ภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ขอความช่วยเหลือมาถึงคุณบรรจงให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงแก้ปัญหามลภาวะทางกลิ่นจากการเผาถ่านขายของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน โดยนายธีรพงษ์บอกว่าเพื่อนบ้านเผาถ่านนาน 30 ปี จนแม่ของตนซึ่งอายุ 67 ปี แล้ว ไม่สบายเข้า รพ. 2 รอบแล้ว

นายธีรพงษ์ได้นำใบรับรองแพทย์ผลตรวจร่างกายล่าสุดของแม่ที่เพิ่งออกจากโรงพยายบาล หลังจากแพ้กลิ่นควันรุนแรงจนหายใจติดขัด และหายใจหอบ โดยแพทย์ระบุอาการไว้ว่าเป็น Fever of unknown origin – Fever , unspecified (ไข้ไม่ทราบสาเหตุ) ซึ่งแม่มีอาการซึมอยู่ที่บ้านนานประมาณ 1 ชม.ก่อนมาพบแพทย์ โดยนายธีรพงษ์ ลูกชายคาดว่ามาจากการที่แม่สูดเอากลิ่นเผาถ่านเข้าร่างกายจนเกิดอาการแพ้

ที่บ้านของผู้ร้องเรียน ได้กลิ่นควันจากการเผาไหม้อย่างชัดเจน นายธีรพงษ์ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่เป็นปัญหา เป็นกองเผาถ่านขนาดใหญ่ภายในบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ติดกัน ควันเผาถ่านพวยพุ่งออกมาล่องลอยไปตามกระแสลมในอากาศกระจายทั่วบริเวณ พร้อมทั้งพาผู้สื่อข่าวไปดูพื้นที่เช่าเผาถ่านของเอกชน ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 700 เมตร โดยมีชาวบ้านในพื้นที่คนอื่นๆ มาเช่าเผาถ่านขาย โดยจ่ายค่าเช่ารายปี ปีละ 6,500 บาท หากเฉลี่ยเป็นเดือนตกเดือนละ 541.66 บาท และเป็นพื้นที่โล่งมีเพียงพื้นที่เพาะปลูกล้อมรอบ แต่หากเข้าไปทางตัวตำบลประมาณ 200 เมตร จะเป็นสถานศึกษาและชุมชนติดถนนสายหลัก

นายธีรพงษ์ เล่าถึงปัญหาว่า เพื่อนบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน ทำอาชีพเผาถ่านขายมานานกว่า 30 ปี โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านแทบทุกหลังทำอาชีพเผาถ่านขาย แต่นานไปมลพิษทางกลิ่นเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็ไปทำในพื้นที่เช่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 700 เมตร บางคนก็เลิกทำไป จนในชุมชนเหลือเพียงหลังนี้หลังเดียว

ที่ผ่านมาเคยมีการประชาคมหมู่บ้าน 2 ครั้ง หลังจากเป็นเรื่องร้องเรียน โดยครั้งแรกหลังจากคุยกันทางคนขายถ่านรับปากว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ควันน้อยลง แต่ได้ไม่นานควันก็คละคลุ้งเหมือนเดิมจนแม่ตนเองเข้าโรงพยาบาลเพราะเหม็นควัน ซึ่งก็มีการร้องเรียนไปมีการประชาคมอีกครั้ง โดยทางคนเผาถ่านรับปากว่าจะเลิกเผาตอนสิ้นปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เลยมาถึงเดือนมีนาคมแล้ว ก็ยังคงเผาอยู่ จนแม่ของตนหายใจหอบอีกรอบ และต้องนอนโรงพยาบาล 2 คืน จึงได้ตัดสินใจร้องเรียนนายก อบต.ภูเวียง และทางคุณบรรงจง อยากให้คุณบรรจงช่วยด้วย

นายธีรพงษ์ บอกอีกว่า หลังร้องเรียนไปทางนายก อบต. ซึ่งท่านก็ได้รับเรื่องไปแล้ว และจะลงพื้นที่มาแก้ไขปัญหาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ส่วนตัวต้องการตามมติของชาวบ้านส่วนใหญ่ ให้เพื่อนบ้านคนนี้ย้ายจุดเผาถ่านไปที่อื่น ห้ามเผาในชุมชนอีก และห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 700 เมตร มีพื้นที่ให้เช่าเผาถ่านของเอกชนอยู่ หากไปเช่าเผาถ่านจุดนั้นเหมือนคนอื่นๆ ก็เชื่อว่าจะสามารถจบปัญหานี้ได้ และชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งตนเอง ต่างไม่อยากให้มีเตาเผาถ่านอยู่ในชุมชน

สอบถาม นายไพทูลย์ อายุ 67 ปี และนางดวงใจ อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่เป็นคู่กรณีกัน โดยทั้งคู่บอกว่าทำอาชีพเผาถ่านมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่จนมารุ่นตัวเอง พร้อมพาผู้สื่อข่าวดูจุดที่ทำการเผาถ่านขาย ซึ่งในหลุมเผาถ่านที่เป็นประเด็นปัญหานั้น จะมีปล่องควันสำหรับระบายควันออกรอบทิศ โดยมีการเปิดปล่องควัน 2 รู เพื่อจำกัดควันไม่ให้กระทบรอบข้างมาก ตามข้อร้องเรียนของชาวบ้าน แต่ในข้อร้องเรียนต่างๆ นั้น ทางนางดวงใจ ได้มีการพูดคุยดำเนินการแก้ไขให้จนผู้ร้องไม่ติดใจแล้ว

นางดวงใจ บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีข้อร้องเรียนเรื่องกลิ่นควันจากการเผาถ่าน ซึ่งตนแก้ไขตามที่ทาง อบต. แจ้งมาแล้ว โดยที่ทาง อบต.ก็ไม่ได้สั่งให้ห้ามเผาแต่อย่างใด ซึ่งตอนนั้นผู้ร้องก็ไม่ได้ติดใจอะไรและย้ายออกไปแล้ว

แต่ที่ถูกร้องเรียนอีกรอบเป็นเพราะเพดานของเตาเผาถ่านเกิดทรุดตัวเป็นรูขนาดใหญ่ ทำให้ลมพัดควันกระจายออกไป นายธีรพงษ์ที่ปกติทำงานอยู่ต่างจังหวัดมาพบเข้าจึงร้องเรียน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มาแจ้งให้ตนแก้ไข เพราะถ้าแจ้งตนก็แก้อยู่แล้ว

ที่ผ่านมาทาง อบต. ไม่เคยห้ามหรือสั่งให้ตนเลิกเผาถ่าน แต่ตนก็มีความคิดว่าจะเลิกหรือทำให้เล็กลง แค่พอที่จะหาเงินมาดูแลสามีและดูแลหลานชายที่ยังเล็ก แต่ต้องรอให้เผาไม้ที่รับมารอบนี้ทั้งหมดก่อน เพื่อเอาทุนคืน ซึ่งคงใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แล้วตนจะปรับหลุมเผาให้เล็กลง