ผจก.วิลลาหรู เอาเงินมัดจำห้องไปเล่น แต่หุ้นหมุนไม่ทัน กุเรื่องคนร้ายชิงเงิน 1 แสน ตร.ไหวพริบดีจับพิรุธได้

ผจก.วิลลาหรู เอาเงินมัดจำห้องไปเล่น แต่หุ้นหมุนไม่ทัน กุเรื่องคนร้ายชิงเงิน 1 แสน ตร.ไหวพริบดีจับพิรุธได้

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลารายงานผลการจับกุมคดีที่น่าสนใจต่อ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุมผบก.ภ.จว.ภูเก็ต หลังสั่งการให้พ.ต.ต.ไสว จันทร์แก้ว สว.สส.สภ.กมลา นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุม น.ส.ชนัญชิดา อายุ 21 ปี ผู้จัดการวิลล่าหรูริมหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยในชั้นพนักงานสอบสวน น.ส.ชนัญชิดา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

สืบเนื่องเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 67 น.ส.ชนัญชิดาได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ณกรณ์ชาติภัยรองสว.(สอบสวน)สภ.กมลาว่าได้ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดแทงบริเวณขาข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บและชิงเงินสดไป 100,000 บาท ขณะขี่ รถจยย.ออกจากที่ทำงานริมหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

โดยอ้างว่าเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันเดียวกัน โดยพบบาดแผลที่ถูกคนร้ายทำร้ายบริเวณขาโดยน.ส.ชนัญชิดา ระบุว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คนขี่รถจยย.ตามมาประกบก่อนบังคับให้รถตนเองจอดและบังคับโดยใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณขา ขณะที่น.ส.ชนัญชิดา เสียหลักรถจยย.ล้มข้างทางโดยได้ชิงเอาเงินสดไป 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินมัดจำวิลล่าของลูกค้าทั้งสาขาหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้และหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง

ก่อนขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็วโดยตนเองได้พยายามถ่ายรูปขณะคนร้ายขี่รถหลบหนีไว้ จากนั้นชุดสืบสวนได้นำรูปดังกล่าวไปตรวจสอบวันเวลาที่ถ่ายภาพดังกล่าวตรงตามที่น.ส.ชนัญชิดาแจ้งไว้พร้อมกับรายงานพ.ต.อ.สมศักดิ์ทองเกลี้ยงผกก.สภ.กมลาทราบ

ขณะเดียวกันพ.ต.อ.สมศักดิ์นำหลักฐานที่ผู้เสียหายมีอยู่มาตรวจสอบอย่างละเอียดโดยมีข้อสงสัยบางประการ เช่น บาดแผลกับกางเกงที่ผู้เสียหายสวมใส่ในวันเกิดเหตุมีพิรุธบางอย่างจึงได้สั่งการให้ สว.สส.พร้อมด้วยชุดสืบสวนขยายผลในรายละเอียดต่าง ๆ โดยพบประวัติทางการเงินของผู้เสียหาย พฤติกรรมการใช้เงินต่างๆ

ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 26 มี.ค.67ได้เชิญตัวน.ส.ชนัญชิดามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จนกระทั่ง น.ส.ชนัญชิดา ให้การยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยยอมรับว่าได้นำเงินมัดจำที่พักของลูกค้าไปลงเทรดเงินในสกุลต่างประเทศจนหมด ทำให้ไม่สามารถนำเงินดังกล่าวมาคืนทางวิลล่าได้ จึงวางแผนถูกคนร้ายชิงเงินสดจำนวนดังกล่าวไปเพื่อหลอกนายจ้าง

โดยนำมีดผลไม้มาปาดขาตนเองและถ่ายภาพเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าแจ้งความกับตำรวจซึ่งไม่คาดคิดว่าตำรวจจะทำคดีได้ไวกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากตนเองกำลังจะหมุนเงินมาลงทุนเทรนหุ้นเมื่อได้กำไรมาแล้วก็จะนำเงินส่งคืนทางวิลล่า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตามสืบสวนได้เร็วเกินคาดจึงความแตกเสียก่อนว่าตนเองสร้างเรื่องขึ้นจนกระทั่งถูกจับกุม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ