ทนายเดชา ชี้ กินเบียร์หน้าร้านสะดวกซื้อไม่ผิด เปิดข้อกฎหมายให้ดูชัดๆ

ทนายเดชา ชี้ กินเบียร์หน้าร้านสะดวกซื้อไม่ผิด เปิดข้อกฎหมายให้ดูชัดๆ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์สอบถามเรื่องข้อกฎหมายว่า การดื่มในที่สาธารณะโดยที่ไม่ใช่สถานที่ราชการนั้นมีความผิดจริงหรือไม่ ข้องใจ หลังดื่มแอลกอฮอล์หน้าร้านสะดวกซื้อที่ไม่ได้อยู่ในปั๊มน้ำมัน โดนตำรวจจับ ปรับ 1,000 บาท

ต่อมา พ.ต.อ.วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผกก.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปจับกุมบอกว่า วันเวลาดังกล่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้ดื่มสุราบนรถ หน้าร้านสะดวกซื้อหน้าโรงทอกระสอบปากช่อง จึงได้ควบคุมตัวมาเสียค่าปรับที่ สภ.ปากช่อง ข้อหาดื่มสุราบนรถในที่สาธารณะ แต่เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับเขียน ข้อตกหล่นจากดื่มสุราบนรถในที่สาธารณะเป็นดื่มสุราในที่สาธารณะ

ส่วน นายจิระเดชา ผู้ที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ท้ายรถปิกอัพ บอกว่า ตนนั่งดื่มสุราบนท้ายรถจริง โดยจอดรถที่บริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ ในที่จอดรถของร้าน ไม่ได้จอดบนถนน และขณะนั้นรถก็จอดไม่ได้ขับขี่ จึงอยากรู้ว่านั่งดื่มในที่ของร้านสะดวกซื้อก็มีความผิดด้วยหรือ ผู้ที่ยังไม่รู้จะได้รู้อยากให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน

ในขณะที่ทางด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สำหรับกฎหมายเรื่องการห้ามดื่มในที่สาธารณะนั้น ถูกระบุอยู่ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 31 ได้มีการระบุสถานที่ไว้ เช่น วัด สถานที่ราชการ สถานที่ที่ถูกกำหนดเอาไว้ เป็นต้น

แต่นอกเหนือจากนั้น หากไม่ได้มีประกาศห้ามตามกฎหมาย หรือมีบัญญัติเอาไว้ว่าการกระทำดังกล่าวจะมีความผิด ต้องมีบทลงโทษ ก็ถือว่าไม่มีความผิด

สำหรับเคสดังกล่าว ตนก็ยัง งง ว่าทำไมถึงไปจับปรับเช่นนั้น เพราะไม่เคยเห็นเคสแบบนี้มาก่อน อยากถาม สภ.ปากช่อง ว่าไปปรับเขาทำไม และไม่เข้าข่ายว่าจะผิดข้อกฎหมายข้อไหนด้วย ยกเว้นว่าจะเมาสุราแล้วอาละวาด แบบนั้นถือว่าเป็นความผิดลหุโทษ

คนดื่มเหล้าเยอะแยะ ไม่เช่นนั้นคนที่ดื่มเหล้าริมทาง ตามร้านอาหาร ร้านตามสั่ง ก็ถูกจับกันหมด

ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นการข่มเหงกลั่นแกล้งประชาชน หรือซ้ำเติมประชาชนหรือไม่ หรือหากมองว่าไม่เหมาะสมก็สามารถตักเตือนได้

ทนายเดชายังเผยอีกว่า คดีตำรวจจับหนุ่มดื่มเบียร์บนท้ายรถกระบะที่จอดอยู่หน้าเซเว่นแล้วพิมพ์ชื่อข้อหาผิดไป ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะใช้วิธีการตักเตือนมากกว่า เพราะเป็นข้อหาเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับลงวันที่ ๒๓ ก.ค.๒๕๕๕ เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งกำหนดห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถ และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับลงวันที่ ๕ ก.พ.๒๕๕๘ เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ.๒๕๕๘ ซึ่งกำหนดห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางตามกฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก และหากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา ๔๒ ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีผู้ขับขี่ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่อง เมาไม่ขับ ห้ามดื่มสุราในขณะขับรถ หรือโดยสารรถยนต์ ไม่ใช้โทรศัพท์ในขณะขับขี่รถ ไม่ขับรถในขณะที่ร่างกายอ่อนเพลีย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย และผู้ขับรถยนต์ให้คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ