เสียชีวิตแล้ว นายพิทักษ์ หลังหายไป 5 วัน เมียเข่าทรุด ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง

เสียชีวิตแล้ว นายพิทักษ์ หลังหายไป 5 วัน เมียเข่าทรุด ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะที่ ร.ต.อ.หญิง รัชนิชา ชูช่วย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งเหตุพบศพลอยอยู่กลางหนองนาหล่ำ หลังวัดบ้านหนองบุ ม.14 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ห่างจากฝั่งประมาณ 30-40 เมตร คาดว่าเป็นศพ นายพิทักษ์ อายุ 62 ปี อดีตครูเกษียณ ชาวบ้านหนองบุ ต.สามพร้าว ซึ่งบ้านอยู่ริมหนองนาหล่ำ ที่หายออกจากบ้าน 5 วัน หลังญาติพี่น้องออกตามหา จึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก อาสากู้ภัยได้นำเรือท้องแบนลงไปนำศพขึ้นมาตรวจสอบบนฝั่ง พบเป็นศพเพศชายจมน้ำเสียชีวิตมาประมาณ 4 วัน สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีสายบัวพันตามร่างกาย และมีหนอนไต่ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น และกางเกงขาสั้น สีครีม ไม่สวมรองเท้า ที่นิ้วนางด้านซ้ายศพสวมแหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 วง

ทันทีที่ นางหมวย (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ข้าราชการครูแห่งหนึ่งใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เห็นตำหนิรูปพรรณศพ ถึงกับร้องไห้โฮแทบเป็นลมล้มพับ และยืนยันว่าเป็นศพของ นายพิทักษ์ สามีของตนเอง ที่หายออกจากบ้านไปหลายวัน และทรัพย์สินภายในบ้าน และทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตาย เช่นโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน ยังอยู่ครบวางอยู่ในบ้าน

ตรวจสอบที่หน้าผากผู้ตายมีลักษณะยุบ ซึ่งแพทย์เวรยังไม่ระบุว่าถูกทำร้าย แต่อาจจะเกิดจากร่องรอยของสัตว์น้ำกัด เช่น หอย ปู ปลา เนื่องจากสภาพศพขึ้นอืดจากการจมน้ำหลายวัน จึงมองคล้ายกับถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ อาสากู้ภัยฯ จะได้นำศพไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี

น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี น้องสะใภ้ผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง เป็นพยาบาลอยู่พื้นที่ จ.หนองคาย ส่วนภรรยา รับราชการครูที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เช่นกัน ช่วงวันหยุดหรือ 1 สัปดาห์จะกลับมาบ้าน หลังผู้ตายเกษียณก็มาอยู่ที่บ้านกับลูกชายคนเล็ก ผู้ตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวอยู่ที่บ้านตามลำพัง ตอนเช้าผู้ตายจะวิ่งออกกำลังกายรอบหนองน้ำ และไม่ชอบสุงสิงกับใคร พอภรรยาและลูกสาวผู้ตายกลับมาถึงบ้านช่วงค่ำวานนี้ ได้ให้ลูกชายไปแจ้งความคนหาย ที่ สภ.เมืองอุดรธานี กระทั่งมาพบศพลอยอืดในช่วงเช้าวันนี้ หลังออกตามหากันมาหลายวัน

ญาติพี่น้องและภรรยาผู้ตายสงสัยหรือติดใจในสาเหตุการตาย เพราะผู้ตายว่ายน้ำเป็น และไม่สวมรองเท้าบูท หากผู้ตายลงหนองน้ำหรือออกจากบ้านก็ต้องสวมรองเท้า แต่รองเท้าทุกคู่ของผู้ตายยังอยู่ที่บ้านครบทุกคู่ จึงให้แพทย์เวรนำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง”

ขณะที่ ลูกชายคนเล็กผู้ตาย อายุ 22 ปี เล่าว่า พ่อเคยรับราชการครูในตำแหน่ง รอง ผอ.โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาว มีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น ความดัน เบาหวาน และมีอาการหลงลืม และชอบดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านคนเดียว นานๆจะมีเพื่อนพ่อมาดื่มด้วยที่บ้าน ครั้งล่าสุดตนเห็นพ่อนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่บ้านช่วงคืนวันอาทิตย์ และเช้าวันจันทร์ก็ยังเห็นอยู่บ้าน ก่อนที่ตนจะออกไปฝึกงานทนายความ และกลับมาบ้านดึกทุกวัน ไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อ และไม่ได้สังเกตว่าพ่อหายไปไหน เพราะพ่อไม่เคยบอกตนเวลาออกไปไหนมาไหนเลย จึงคิดว่าพ่อออกไปเที่ยวหาเพื่อนนอกบ้าน

กระทั่งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตนลาหยุดงาน พ่อก็ยังไม่กลับมาบ้าน ได้ออกตามหากับญาติพี่น้องแต่ก็ไม่พบ จึงโทรไปแจ้งแม่ว่าไม่รู้พ่อหายไปไหน และมีเหตุการณ์ที่ชวนขนหัวลุก ขณะที่ตนอยู่ในห้องนอนช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี มีคนมาเคาะประตูห้องนอนตน ทีแรกคิดว่าพ่อคงกลับมาบ้านแล้ว พอเปิดประตูออกไปดู แต่ก็ไม่พบใคร ตนเชื่อว่าคงเป็นวิญญาณของพ่อพยายามมาสื่อสารบอกตนให้รู้

อุปนิสัยพ่อเป็นคนขี้น้อยใจ และชอบระแวงแม่ปันใจให้ชายอื่น และทะเลาะกันเรื่องนี้บ่ยครั้ง แต่แท้ที่จริงแล้วแม่ไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น และไม่เคยนอกใจพ่อ แต่พ่อชอบคิดไปเอง อาจจะเป็นเพราะอยู่ห่างกัน หนึ่งสัปดาห์จะกลับมาบ้าน ยิ่งเวลาเมาเหล้ายิ่งพูดเรื่องนี้ขึ้นมาบ่อย แต่เวลาไม่เมาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด เป็นคนเงียบๆเก็บตัวอยู่คนเดียว

และหลายครั้งเคยพูดขู่แม่ว่าจะกระโดดน้ำตายในหนองน้ำหน้าบ้าน และชวนแม่ไปหย่า ตนจึงคิดว่าพ่อคงมีภาวะซึมเศร้า หรือเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า กับการคิดมากในเรื่องนี้ แต่ไม่ออกอาการ จึงทำให้คิดสั้นมากกว่า เพราะพ่อไม่เคยมีศัตรู และไม่เคยพาพ่อไปพบหมอจิตเวชเลยสักครั้ง ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ