ศธ.ประกาศข่าวดี เตรียมแจกแล็ปท็อปช่วยลดภาระครู

ศธ.ประกาศข่าวดี เตรียมแจกแล็ปท็อปช่วยลดภาระครู

วันที่ 19 ก.พ. 2567 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ที่จะเดินหน้าเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หรือ โครงการ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต และการแจกอุปกรณ์เทคโนโลยีประกอบการสอนให้แก่ครูนั้น

ขณะนี้การดำเนินการเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำแผนงบประมาณปี 2567 และปี 2568 ซึ่งในปี 2567 จะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนของนักเรียนและครู โดยเป็นการใช้คลังข้อมูลขนาดใหญ่ที่ผู้เรียนและครูสามารถดึงแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้านต่างๆ มาใช้ประกอบการสอน หรือคัดลอกเป็นต้นแบบสื่อการเรียนการสอนเป็นของตัวเองได้ และในปีงบประมาณ 2568 จะเริ่มแจกอุปกรณ์การสอนแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อป โดยนำร่องในโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน

สำหรับการแจกอุปกรณ์การสอนแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปนั้นเชื่อว่าจะเป็นการช่วยลดภาระงานครู และตอบโจทย์การสอนรูปแบบใหม่ที่จะดำเนินการควบคู่ไปกับการมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้หรือคลังเนื้อหาสาระการเรียนการสอนครบทุกวิชา โดยครูผู้สอนสามารถจัดระบบตารางการสอน และตรวจการบ้านผู้เรียนได้ผ่านอุปกรณ์การใช้งานที่แจกให้

อีกทั้งทำให้ครูได้ทราบข้อมูลเด็กรายบุคคลว่ามีจุดอ่อนและจุดเด่นในวิชาไหน เพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน โดยการแจกอุปกรณ์เทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นระบบเช่าใช้งาน ทั้งนี้เมื่อมีการแจกอุปกรณ์เทคโนโลยีแล้วก็อาจทำให้ค่าไฟโรงเรียนเพิ่มขึ้น เพราะอุปกรณ์ต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมต่อการใช้งานจึงจำเป็นต้องมีมาตรการประหยัดพลังงานโดยติดตั้งโซลาร์เซลล์

เราพบค่าสาธารณูปโภคหมวดค่าไฟสูงมากเป็นภาระของโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยขณะนี้ ศธ.ได้เจรจาความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่เป็นในกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีค่าไฟตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะประหยัดค่าไฟได้ถึง 30-35%

ส่วนโรงเรียนขนาดกลางและเล็กกำลังไปหารือกับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งกองทุนฯ ยินดีสนับสนุนเงินให้แก่โรงเรียนในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเรื่องความไม่เชี่ยวชาญของครูและผู้บริหารในเรื่องระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง และจะได้เกิดความปลอดภัยกับทุกฝ่าย จึงได้ดำเนินการในรูปแบบจีทูจี หรือการซื้อขายระหว่างกองทุนฯ กับการไฟฟ้านครหลวง และกฟผ.ไปหาผู้รับจ้างในการติดตั้งโซลาร์เซลล์เอง เพราะหน่วยงานดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคมากกว่าสถานศึกษา

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ