เมื่อวันที่ 27 ม.ค.67 มีชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ หลังพบว่ามีเด็กหญิงสองพี่น้องวัยประมาณ 3-4 ขวบ ถูกปล่อยทิ้งไว้ริมถนนหน้าวัดชัยมงคล กลางเมืองเชียงใหม่ สอบถามพ่อขับรถตุ๊ก ๆ จะปล่อยลูกทิ้งไว้ช่วงที่ไปรับส่งลูกค้า

ล่าสุดที่ชาวบ้านมาพบนานกว่า 3 ชั่วโมง ที่เด็กสองคนอยู่ลำพังริมถนน ชาวบ้านให้ข้อมูลพ่อแม่แยกทาง โดยพ่อเอาลูกมาเลี้ยงให้ออกจากโรงเรียน มักจะปล่อยให้อยู่กันสองคนช่วงไปรับ-ส่งลูกค้า แถมพ่อยังมีพฤติกรรมดื่มสุรา ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเด็ก

ต่อมามีรายงานว่า เด็กสองคนมาอยู่ตรงนี้โดยพ่อพามา และมารอพ่อบอกเพียงว่าพ่อไปส่งแขก ทางผู้สื่อข่าวจึงได้รอเนื่องจากเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตรายจากรถที่ขับผ่านไปมา โดยให้กลับขึ้นมานั่งบนเสื่อบนทางเท้า หลังจากนั้นผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงพบว่ามีชาวบ้านที่ผ่านไปมาและพอจะเคยเห็นเด็กสองคนนี้เข้ามาช่วยดูแล ขณะที่ชาวต่างชาติที่ผ่านไปพบเห็นเด็กสองคนนี้ ได้ไปซื้อข้าวกับขนมมาให้ด้วย

ชาวบ้านผู้ที่อยู่ใกล้เคียง เผยว่า เด็กสองคนนี้เป็นลูกของคนขับตุ๊ก ๆ สองผัวเมีย ก่อนหน้านี้ก็ช่วยกันดูแลลูกแต่มาช่วงหลังมีปัญหาจนต้องเลิกรากันไป และแบ่งลูกไปดูแลฝ่ายละคน แต่มาตอนหลังพบว่ามีช่วงหนึ่ง ที่ผู้เป็นพ่อดื่มสุราจนหมดสติ และล้มหัวฟาดจนหมดสติ และไปรับการรักษา 2 คืนด้วยกัน พอฟื้นขึ้นมาก็ถามหาลูก ชาวบ้านก็ช่วยกันติดตามจนทราบว่ามีคนขับสี่ล้อแดงรับตัวไปดูแล

พอหลังจากที่หายป่วยจึงกลับไปขอรับลูกอีกคนที่อยู่กับฝั่งแม่มาดูแลทั้ง 2 คน แต่กลับให้เด็กออกจากโรงเรียนและมาอยู่ที่หน้าวัดด้วย พอช่วงไหนมีลูกค้าว่าจ้างก็จะปล่อยลูกทั้ง 2 คนอยู่ริมถนน บางช่วงก็หายไปเป็นเวลานาน คนที่ขับตุ๊ก ๆ ด้วยกันก็พยายามเตือนถึงเรื่องความปลอดภัย มีหลายครั้งที่เด็กวิ่งเล่นลงไปบนถนนจนเกือบถูกรถชน แถมพบว่าบางช่วงที่พ่อไปดื่มเหล้ามักจะเอาลูกไปด้วย และปล่อยให้เล่นกับคนในวงเหล้าหลายครั้ง จนคนรู้จักไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะพ่อไม่ยอมเชื่อฟังแม้จะห่วงว่าเด็กจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าปลอดภัยหลายครั้ง

โดยช่วงค่ำทางลูกวัดและพระวัดชัยมงคล ทราบเรื่องก็ได้ช่วยพาเด็กไปดูแลที่ในวัดรอพ่อ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อ งลงมาตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน เนื่องจากเกรงว่าเด็กจะอยู่ในสถานะที่มีความเสี่ยง ทั้งเรื่องความปลอดภัย และขาดโอกาสด้านต่าง ๆ หากยังต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้