เมื่อวันที่ 21 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง จังหวัดเชียงราย ควบคุมตัวนายนิรันดร์ จันทร์ต๊ะนาเขต อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา มาส่งมอบให้กับ พ.ต.ต.ศิริพงษ์ ทองใบ สว.(สอบสวน) เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายนางอัจราภรณ์ ยศบุญ อายุ 41 ปี ครูประจำชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ม.4 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลปากแตก และกระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ ถูกนำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา

โดยนายนิรันดร์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนจะเข้าไปตัดต้นไม้ในโรงเรียน ซึ่งตามปกติตอนจะเข้าไปตัดไม้ตนจะเข้าไปแจ้งกับทาง ผอ.โรงเรียน หรือครูอีกคนหนึ่งที่ชื่อโอ แต่วันนี้กลับเป็นครูผู้หญิงที่ตนไม่รู้จัก

และจังหวะที่ตนจะเดินเข้าไปแจ้งครู ปรากฏว่าปืนพลาสติกที่ตนพกไปด้วยร่วงตกพื้น ครูผู้หญิงเห็นปืนก็คงคิดว่าตนจะมาทำร้าย จึงเข้ามาแย่งมีดที่ตนพกมาทำงานตัดไม้เป็นประจำเอาไปถือกวัดแกว่ง เหมือนกลัวว่าตนจะเข้าไปทำร้าย ตนพยายามตะโกนบอกครูว่าให้ใจเย็นๆ ตนไม่ได้มีเจตนาจะเข้ามาทำร้ายอะไรแค่จะมาตัดไม้เฉยๆ แต่ครูคนดังกล่าวก็กวัดแกว่งมีดของตนไปมา ตนก็เลยเข้าไปแย่งมีด ก่อนมีดจะแกว่งโดนใส่สันจมูกและริมฝีปากจนเป็นแผล มีเลือดออกจำนวนมาก พอโดนทำร้ายตนก็เลยโมโห บันดาลโทสะ ทำร้ายครูตามที่ปรากฏตามคลิป

นายนิรันดร์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุ ได้หลบไปทำแผลและติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความผิด และรับความผิดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกลัวว่าครอบครัวและสังคมจะมองเราไม่ดีว่ามีเจตนาจะเข้าไปทำร้ายครู

หลังจากนายนิรันดร์ พบกับพนักงานสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการฝากขังตัวผู้ต้องหาเพื่อรอการสอบสวน ด้านญาติผู้ก่อเหตุยังเชื่อว่านายนิรันดร์ไม่มีเจตนาจะเข้าไปทำร้ายครูตั้งแต่แรก แต่เป็นการบันดาลโทสะหลังโดนทำร้าย และอยากให้ทางโรงเรียนนำคลิปกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียน ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้ ให้นำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชน จะได้เข้าใจว่าเหตุการณ์มันเป็นอย่างไรกันแน่

รายงานข่าวแจ้งว่า นายนิรันดร์ผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติพัวพันกับการเสพยาเสพติด เคยเข้าๆออกๆคุกบ่อยครั้ง และเคยมีเหตุทำร้ายร่างกายคนในหมู่บ้านหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่จำหน้าได้ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ยังอยู่ในการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะข้อมูลทั้งฝั่งครูที่ถูกทำร้ายและตัวผู้ก่อเหตุยังขัดแย่งกัน แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในที่เกิดเหตุหรือแม้แต่แวดวงการศึกษาก็ต่างพูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ และอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐพิจารณางดเว้นเรื่องการเข้าเวรของครู โดยเฉพาะครูผู้หญิง และพิจารณาเรื่องการคืนเวลาสอนให้กับครู

ล่าสุดทางสหพันธ์ครูเชียงราย ร่วมกับสมาพันธ์ครูเชียงราย เขต 1- 4 ได้ประกาศขอเชิญชวนท่านผู้บริหารโรงเรียนต่างๆในพื้นที่ ร่วมกันเดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครูโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยขอนัดหมายจอดรถที่สพป.ชร.1 และเดินทางไปพร้อมกันในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 22 มกราคมที่จะถึงนี้ ซึ่งภายหลังจากเยี่ยมครู สหพันธ์ครูเชียงราย จะแถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือครูโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ โดยขอความอนุเคราะห์สถานที่ ห้องพวงทอง สพป.เชียงราย เขต 1 อ.เมือง จ.เชียงราย ต่อไป