เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 67 จากกรณีที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย, และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี ออกประกาศราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร ขึ้นอีกฟองละ 30 สตางค์ คือจากเดิมฟองละ 3.50 บาท ขึ้นเป็นฟองละ 3.80 บาท ทำให้ราคาไข่ไก่แบบแผงปรับขึ้นรทีเดียวแผงละ 9 บาท นั้น

นายสำเริง รื่นพล เจ้าของสำเริงฟาร์ม ฟาร์มไก่ไข่ในพื้นที่ ถึงเรื่องดังกล่าว นายสำเริงเปิดเผยว่า การปรับราคาหน้าฟาร์มขึ้น 30 สตางค์ต่อฟองนั้นไม่ได้มาจากกลไกท้องตลาด แต่มาจากเงื่อนไขเดิม ที่เมื่อปลายปีรัฐช่วยลดค่าไฟฟ้า ทำฟาร์มไก่ไข่ยอมปรับราคาลงให้จากเดิม ฟองละ 4 บาท เหลือ 3.50 บาท ให้เป็นของขวัญปีใหม่กับผู้บริโภค

ต่อมาเมื่อรัฐปรับขึ้นราคาค่าไฟ บวกกับวัตถุดิบหายากราคาแพง ทางฟาร์มจึงปรับขึ้นเพียง 30 สตางค์ เป็น 3.80 บาทต่อฟอง ซึ่งยังไม่เท่าของเดิม อยู่ที่ฟองละ 4 บาท ส่วนต่างอีก 20 สตางค์ ยังต้องรอดูท่าทีของทุกฝ่ายอีกครั้งว่าจะมีการปรับขึ้นหรือไม่

สำหรับช่วงหลังปีใหม่ที่รัฐได้ปรับราคาค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนของฟาร์มเพิ่มขึ้นตามเป็นเงาตามตัว เพราะการเลี้ยงไก่ไข่ปัจจุบันใช้กระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ทั้งในการปรับอากาศในโรงเรือน ระบบจ่ายน้ำจ่ายอาหารไก่ไข่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องวัตถุดิบผสมอาหารไก่อย่างปลาป่นและข้าวโพด ที่หายาก มีราคาแพง หากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ได้ ก็จะช่วยชะลอเรื่องการขึ้นราคาหลังจากนี้ได้ เพราะราคาขายที่ฟองละ 3.80 บาทนี้ ทางเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้กำไรอยู่ที่ไม่เกิดฟองละ 5 สตางค์เท่านั้น