สิ้น หลวงปู่เกลี้ยง เกจิดังของไทย ศิษย์นับหมื่นร่ำไห้ถวายเพลิงสรีระสังขาร

สิ้น หลวงปู่เกลี้ยง เกจิดังของไทย ศิษย์นับหมื่นร่ำไห้ถวายเพลิงสรีระสังขาร

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 มีรายงานว่า ที่เมรุชั่วคราววัดโนนแกด ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ นายธวัช สุระบาล นายวัฒนา พุฒิชาติ นายสำรวย เกษกุล อดีต ผวจ.ศรีสะเกษ ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานบริหาร บริษัท ซูเลียน จำกัด แห่งประเทศไทย ได้นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนแกด เกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย ร่วมพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารของหลวงปู่เกลี้ยง โดยได้รับความเมตตาจาก พระพรหมวชิรโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 วัดศาลาลอย จ.สุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) นำพระสงฆ์สมณศักดิ์ พระเถระ จาก จ.อุบลราชธานี ยโสธร สุรินทร์ และศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) พระครูประภัสสรสุตกิจ ดร.(พระมหาเฉลิมชัย ปภัสสโร) พระอุปัชฌาย์, เจ้าคณะแขวงบ้านช่างหล่อ เลขานุการรองเจ้าคณะกรุงเทพฯ, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กรุงเทพฯ รก.เจ้าอาวาสวัดหนองแวง ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่เกลี้ยง จำนวนประมาณ 10,000 คน พากันมาร่วมพิธี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก เนื่องจากว่า ทุกคนต่างรักศรัทธาและได้พากันร่ำไห้อาลัยหลวงปู่เกลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่บรรดาเซียนหวยต่างพากันแห่ซื้อเลขเด็ดของหลวงปู่เกลี้ยงอายุ 112 ปี 44 พรรษา

ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารของหลวงปู่เกลี้ยง พระครูประภัสสรสุตกิจ ดร.(พระมหาเฉลิมชัย ปภัสสโร) พระอุปัชฌาย์,เจ้าคณะแขวงบ้านช่างหล่อ เลขานุการรองเจ้าคณะกรุงเทพฯ, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กรุงเทพฯ รก.เจ้าอาวาสวัดหนองแวง ต.ทุ่ม อ.เมืองศรีสะเกษ ในฐานะเป็นหลานของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนแกด ได้นำคณะญาติธรรมจากกรุงเทพน้อมถวายกตัญญูตา น้อมถวาย 1.ผ้าไตร จำนวน 100 ไตร พร้อมคณะญาติธรรม 2. สติกเกอร์รูปหลวงปู่ จำนวน 2,500 แผ่น 3. รูปโปสเตอร์หลวงปู่เกลี้ยง จำนวน 3,000 แผ่น คิดเป็นราคาปัจจัยจำนวน 140,000 บาท ต่อมา ได้มีการแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ แสดงโดย พระพรหมวชิรธีรคุณ เจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ กรุงเทพ พิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล จำนวน 20 ไตร พิธีถวายเพลิงสรีระสังขาร โดยพระพรหมวชิรโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 วัดศาลาลอย จ.สุรินทร์ จากนั้น พระสงฆ์สมณศักดิ์ พระเถระ พระสงฆ์ร่วมพิธี ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนและศิษยานุศิษย์ ได้พากันขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ เมื่อถวายเพลิงแล้ว คณะสงฆ์และผู้มาร่วมพิธีทุกคนได้พากันนั่งพนมมือสวดมนต์ เพื่อน้อมถวายหลวงปู่เกลี้ยง

พระครูประภัสสรสุตกิจ ดร.(พระมหาเฉลิมชัย ปภัสสโร)พระอุปัชฌาย์,เจ้าคณะแขวงบ้านช่างหล่อ เลขานุการรองเจ้าคณะกรุงเทพฯ,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม กรุงเทพฯ รก.เจ้าอาวาสวัดหนองแวง ต.ทุ่ม อ.เมืองศรีสะเกษ ในฐานะเป็นหลานของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดโนนแกด กล่าวว่า สำหรับประวัติโดยย่อของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม เดิมชื่อว่า เกลี้ยง คุณมะนะ เกิดวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2451 เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวน 7 คน บิดาชื่อ บุญมี คุณมะนะ มารดาชื่อ ผิว คุณมะนะ มีพี่น้องร่วมสายโลหิต 7 คนเป็นชาย 6 คน หญิง 1 คน เกิดที่บ้านก้านเหลือง ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อหลวงปู่ได้อายุ 3 ปี บิดาก็ได้เสียชีวิต มารดาจึงได้อพยพมาอยู่บ้านโนนแกด ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และได้เข้า ร.ร.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีละเกษ ในขณะเรียนหนังสืออยู่นั้น หลวงปู่เป็นคนเอาใจใส่ต่อการเรียนเป็นนักเรียนเก่ง จนได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนดีเด่นของ อ.เมือง เป็นที่รักของเพื่อนๆ ตลอดทั้ง ครูบาอาจารย์ เมื่อจบชั้น ป.4 หลวงปู่ไม่ได้ไปศึกษาต่อ ได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ เป็นคนขยัน เป็นที่รัก ของแม่พี่น้องและเพื่อนร่วมบ้านเป็นอย่างดี

เมื่อปี พ.ศ.2467 ทางราชการประกาศรับสมัครผู้ที่จบชั้น ป.4 เข้าสมัครเป็นครูช่วยสอน หลวงปู่สอบคัดเลือกได้ช่วยสอนครั้งแรกที่ ร.ร.วัดบ้านโนนแกด ซึ่งขณะนั้นเริ่มก่อตั้งใหม่ทำการสอนได้ 4 เดือน ทางราชการจึงสั่งย้ายไปสอนที่ ร.ร.บ้านโพรง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ทำการได้ 3 ปี 6 เดือน ไประยะนั้นร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงได้ลาออก มารักษาตัวอยู่ที่บ้านตั้งนานก็ไม่หาย ต่อมาเหมือนมีสิ่งหนึ่งมาบันดลในใจอยากให้คิดอยากจะบวช จึงได้บอกมารดาว่า จะขอบวช มารดาและพี่น้องก็ไม่ขัดข้องจึงได้บรรพชา เป็นสามเณรที่วัดบ้านโนนแกด ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วการเจ็บป่วยก็หายเหมือนปาฏิหารย์ โดยไม่ได้ใช้ยาอะไรรักษาเลย เมื่อการเจ็บป่วยหายเป็นปกติแล้ว หลวงปู่จึงได้แสวงหาหลักธรรม คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสอบนักธรรมชั้นตรี เมื่อสอบนักธรรมชั้นตรีได้แล้ว หลวงปู่ได้ศึกษาต่อนักธรรมชั้นโท และสอบนักธรรมชั้นโทได้ ทางราชการมีหมายเรียกให้เข้ารับเกณฑ์ทหาร หลวงปู่จับสลากคัดเลือกได้รับเข้าเป็นทหารเกณฑ์ จึงได้ลาสิกขาบทเข้ารับราชการทหารไปประจำอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี เข้ารับการฝึกครบ 6 เดือน ทางราชการทหารได้ประกาศคัดเลือกทหาร เข้าเรียนนักเรียนนายสิบ หลวงปู่ได้คัดเลือกเข้าเรียนโรงเรียนนายสิบ จ.นครราชสีมา เรียนจบหลักสูตร 15 เดือน เมื่อจบเข้าประจำการกองกำลังชุดปืนกลเบาออกปฏิบัติการชายแดนประเทศกัมพูชา - ลาว และปฏิบัติการร่วมรบสงครามเอเชียบูรพา ปฏิบัติการชายแดนอยู่ประมาณ 2 ปี 7 เดือน ในขณะปฏิบัติราชการ หลวงปู่เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และผู้บังคับบัญชารักหลวงปู่เป็นพิเศษ ต่อมา มารดาของหลวงปู่ก็ได้เสียชีวิตพวกพี่ๆ ต่างก็มีครอบครัวกันหมด คงเหลือแต่น้องสาวคนเล็กอยู่บ้านเพียงคนเดียว หลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่มารดาแล้ว หลวงปู่คิดถึงน้อง คิดถึงหน้าที่ จึงเกิดจิตหวั่นไหวการปฏิบัติหน้าที่จึงไม่สมบูรณ์ จึงขอลาออกจากราชการ ในขณะรับราชการได้รับเงินครั้งแรก 6 บาท จนถึงลาออกได้รับเงิน 16 บาท เมื่อลาออกจากราชการแล้ว ก็มาอยู่บ้านโนนแกดกับน้องสาว ได้จับจองที่ดินได้มากมาย เพราะหลวงปู่เป็นคนฉลาดและขยัน แล้วหลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตนเป็นคนดี เสียสละ โอบอ้อมอารี มีจิตใจซื่อตรง ชาวบ้านจึงแต่งตั้งให้เป็นตุลาการของหมู่บ้าน หากชาวบ้านเกิดเรื่องเกิดความ หลวงปู่จะเป็นคนไกล่เกลี่ยช่วยแก้ไขจนสามารถตกลงกันได้จนสำเร็จ คนทั่วไปยอมรับว่า หลวงปู่สามารถพูดจากับผีสางนางไม้ได้ ส่วนทางด้านหมอยาแผนโบราณหลวงปู่มีประสบการณ์ใน ขณะปฏิบัติราชการทหารสามารถรู้จักยาสมุนไพรที่รักษาโรคต่างๆ ได้ จนได้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของผู้เจ็บป่วยโดยทั่วไป ชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือมากขึ้น ก็มีผู้นำผู้ป่วยมารักษาอยู่กับหลวงปู่ที่บ้านโนนแกดเป็นจำนวนมาก จนได้รับขนานขามว่า หมอยาเกลี้ยงผู้วิเศษ หลวงปู่จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ข้าพเจ้าผู้ถือปฏิบัติหลักธรรมของพระพุทธองค์ ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นที่พึ่งของผู้มีทุกข์กายทุกข์ใจ ขอให้ข้าพเจ้าได้มีบารมีได้สร้างวิหารทาน เมื่อหลวงปู่ได้ตั้งจิตอธิษฐาน จึงตัดสินใจออกอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อปีขาล วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2518 ณ วัดบ้านแทง ต.ชำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระอุปัชฌาย์คือ พระครูเกษตรศีลาจารย์ วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ต่อมาชาวบ้านโนนแกด จึงได้นิมนต์มาอยู่วัดโนนแกด จนถึงวันที่หลวงปู่ละสังขาร

นางนงลักษ์ ทรงกลด อายุ 60 ปี หลานสาวของหลวงปู่เกลี้ยง กล่าวว่า ตนดูแลทั้งวัดทั้งสุขภาพหลวงปู่เกลี้ยงทุกอย่าง ก่อนที่หลวงปู่เกลี้ยงจะละสังขารนั้นก็มีอาการป่วยหลายโรคซึ่งเป็นโรคของคนแก่อายุมากแล้ว หลวงปู่ละสังขารเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 08.59 น.ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ อายุท่าน 112 ปี 44 พรรษา ตนขอฝากถึงลูกศิษย์ของหลวงปู่ทั่วประเทศว่า ขอให้ยึดมั่นตามคำสอนของหลวงปู่เกลี้ยงที่ท่านเคยสอนไว้ให้นำเอาไปปฏิบัติ ตนและคณะศิษย์ทุกคนขอให้ดวงวิญญาณของหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม ไปสู่สรวงสวรรค์สู่พระนิพพาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ