ร้านล้างรถ แจ้งความลูกค้า หลังโพสต์โซเชียลทำให้เสียหาย

ร้านล้างรถ แจ้งความลูกค้า หลังโพสต์โซเชียลทำให้เสียหาย

วันที่ 4 ม.ค.2567 น.ส.ธัญญ์รวี หรือต้า อายุ 38 ปี เจ้าของร้านคาร์แคร์ พร้อมทนายความ เข้าร้องกับสื่อหลังจากเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางชัน แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค โดยระบุข้อความว่า แม่มานั่งด้านหลังคนขับแถว 2 แม่เราทักว่าตรงที่จับด้านข้างเลอะอะไร คือเราก็ไม่ได้สังเกตซึ่งเราก็ถามแฟน แฟนบอกว่าไม่ได้ทำเลอะ

พอสำรวจรอบรถคอนโซลหน้า ที่บังแดด ที่จับข้างๆ คือเป็นรอยเลอะคล้ายผ้าเปียก เลอะฝุ่นแล้วมาเช็ดต่อ จนเป็นคราบทุกจุดที่ถ่ายรูป จึงทักไปแจ้งร้าน ไม่ได้จะเอาผิดหรือเรียกร้องอะไร แค่อยากแจ้งร้านเพราะกลัวปัญหานี้ไปเกิดขึ้นกับลูกค้าท่านอื่นๆ ซึ่งเราก็ไม่ได้สังเกตเลยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เราก็ไม่ได้อยากกล่าวหา แต่ถามฝั่งเราคือเราไม่ได้ทำเลอะ ทั้งคอนโซลรถแน่ๆ ค่ะ ดูจากเจ้าของร้านตอบเรากลับมาแบบนี้ คือเราเสียความรู้สึกสุดๆเลยค่ะ

เราผิดเองที่ล้างตั้งแต่วันที่ 25 แต่มาเช็คเจอวันที่ 30 ตอนโทรมามีการบอกให้ไปโรงพักเลย ไปเปิดดูกล้องที่โรงพักถ้าร้านผิดยินดีชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา แฟนเราที่เป็นคนใจเย็นมากๆ คุยกับเจ้าของร้านแทนเราถึงกับต้องวางสายไปเอง ขอมาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบไปล้างรถที่ร้านนะคะ ตรวจสอบก่อนออกจากร้านทันทีค่ะ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบเรา

น.ส.ธัญญ์รวี เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.66 โดยลูกค้าได้นำรถเข้ามาใช้บริการที่ร้าน เป็นการล้างรถและดูดฝุ่นตามปกติซึ่งการล้างแบบนี้ทางพนักงานจะเข้าไปทำความสะอาดภายในตัวให้หมด ทั้งเบาะ ทั้งพนักพิงหรือตามคอนโซลต่างๆ หลังจากล้างเสร็จก่อนจะส่งมอบทางพนักงานก็มีการตรวจเช็คความเรียบร้อยทุกครั้งและยืนยันว่าไม่มีคราบเลอะแน่นอน

แต่หลังจากส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปแล้ว วันที่ 30 ธ.ค.2566 ได้ติดต่อเขามาทางเพจของที่ร้านและแจ้งว่าพบคราบสกปรกเลอะที่บริเวณเพดานรถหลายจุด โดยบอกว่าเป็นคราบที่เกิดจากพนักงานที่ร้านใช้ผ้าสกปรกเช็ดจนเกิดคราบดังกล่าวขึ้น ต่อมาตนได้มีการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าไม่น่าจะเกิดจากพนักงานที่ร้านเพราะน้องๆ ก็เช็กให้แล้วก่อนส่งมอบ

และได้สอบถามไปว่าทำไมเพิ่งจะมาแจ้งหลังจากที่ขับรถกลับไปแล้วตั้ง 5 วัน แต่ก็ได้บอกกับลูกค้าไปว่าจะรับผิดชอบให้ จะเปิดกล้องดูวงจรปิดดูให้ พอตนคุยไปแบบนี้ทางลูกค้าก็ไม่พอใจและเริ่มด่าทอตนด้วยคำหยาบคายต่างๆ หาว่าตนคุยไม่ดี และไปโพสต์ลงกลุ่มโซเชียลในลักษณะที่ทำให้ร้านของตนเสียหาย ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อตนและร้านของตนอีกหลายสาขา มีทั้งคนที่มาคอมเมนต์ในเชิงลบต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าคนอื่นเข้าใจผิด

ต่อมาทางคู่กรณีก็ได้ติดต่อมาขอโทษตนและยอมรับผิดที่ไม่ยอมเช็ครถก่อนออกจากร้าน แต่ไม่ได้เข้ามาขอโทษต่อหน้าแค่แช็ตมา ซึ่งตอนนี้ตนรู้สึกแย่มากๆ มันเสียความรู้สึกไปแล้วแล้วการที่เขาเอาไปโพสลงโซเชียลมันมีบุคคลที่ 3 ที่4 ที่เขาเห็นข้อความมันส่งผลกระทบที่ร้านอย่างมาก

ตอนนี้ร้านของตนมี 4 สาขา ลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีลูกค้าบางคนที่เข้าใจเราและยังไว้วางใจที่เข้ามาใช้บริการที่ร้าน ตอนนี้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ หลังจากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ