จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ลงไปนอน แต่จู่ๆ เด่นนาโพธิ์ ก็เซถลาล้มลงไปนอนหน้าคว่ำ ทำเอา ก้องนภา ที่นอนอยู่ถึงกับยืนงง ก่อนจะลุกขึ้นมาได้ และกรรมการ หันไปนับ 10 เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกแทนแบบน่ากังขา

เหตุการณ์ครั้งนี้สมาคมมวยจังหวัดสุรินทร์ และการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันสอบสวนพร้อมยึดใบอนุญาตชกมวยของเด่นนาโพธิ์ ตลอดชีวิตตาม พ.ร.บ.มวย 2542 พร้อมส่งฟ้องศาลเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลจังหวัดรัตนบุรี สุรินทร์ ได้อ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าวก่อนที่จะตัดสินจำคุก เด่นนาโพธิ์ พร้อมผู้ร่วมจ้างวานคือ นายสมชาย นุยืนรัมย์ หรือโผน สุรินทร์ เป็นเวลา 6 เดือนแต่จะให้รอลงอาญา 1 ปี พร้อมปรับคนละ 30,000 บาท

นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เรื่องของ เด่นนาโพธิ์ ไม่มีใครจ้างล้ม แต่ตัวเขาไปจ้างตัวเองล้ม กล่าวคือ เด่นนาโพธิ์ โทรหาเซียนมวย นาย ก. และ นาย ข. ให้ไปวางเดิมพันคู่ชก เพราะอ้างว่า ตัวเองซ้อมน้อย ตนจะแกล้งแพ้ แต่ตัวเองขอเงิน 20,000 บาท ซึ่งสุดท้ายถูกจับได้ และรับสารภาพ ในส่วนนี้ กกท. ได้พยายามผลักดันการบังคับใช้ พ.ร.บ.กีฬามวย อย่างเต็มที่ คือ การยึดใบอนุญาต พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูล ส่งต่อเจ้าหน้าที่สืบสวน เพื่อสืบพยานเพื่อยื่นฟ้องต่ออัยการต่อไป

ในเวลานี้ยังมีอีกหลายคดีที่ กกท. กำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และพยาน เพื่อส่งต่อให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการต่อ ในขั้นตอนการเรียกพยาน โดยมีอยู่ราวๆ 100 คดี เป็นทั้งการตัดสินไม่เป็นธรรม ชกไม่สมศักดิ์ศรี นักมวยพักไม่ครบกำหนด โปรโมเตอร์จัดมวยไม่มีใบอนุญาตก็มี ในจำนวนนี้มี 3-4 เคสเป็นเรื่องล้มมวย มีพักใบอนุญาต และตักเตือน ซึ่ง กกท.ไม่นิ่งนอนใจ และใกล้จะดำเนินการจบอีก 2 คดี