หัวอกคนเป็นแม่ ลูกชายถูกแก๊งโจ๋ ดักไถเงิน ซ้ำ ร.ร.ขออย่าโพสต์ กลัวเสียชื่อ

หัวอกคนเป็นแม่ ลูกชายถูกแก๊งโจ๋ ดักไถเงิน ซ้ำ ร.ร.ขออย่าโพสต์ กลัวเสียชื่อ

จากภาพวงจรปิดของเพจเฟซบุ๊ค แอดเบล นครบาล เผยให้เห็นเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่น5-6ราย เข้าไปทำร้ายร่างกายเยาวชนชายทั้งรุมเตะรุมต่อย จนเด็กเกือบตกสะพานข้ามคลอง ก่อนที่แก็งอันทพาลกลุ่มนี้จะเดินจากไป พร้อมข้อความระบุว่า เปิดคลิปเหตุการณ์ เด็กนักเรียนมัธยมแห่งหนึ่งโดนทำร้ายในซอยอ่อนนุช 17 แยก 24 เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักเรียนผู้เสียหายกำลังเดินกลับบ้าน ทำให้สังคมอยากรู้ว่า เยาวชนกลุ่มนี้ทำร้ายร่างกายจากสาเหตุใด

ที่ สน.คลองตัน ทางพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านอ่อนนุช ที่ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังลูกหลานถูกแก๊งเยาวชนอายุระหว่าง 12-15 ปี ประมาณ 4-6 คน ตั้งแก๊งดักรีดไถเงินบุตรหลานหลังเลิกเรียน เมื่อไม่ได้ก็จะทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดมาแล้วหลายครั้ง เมื่อร้องเรียนไปยังสถานศึกษาให้ช่วยดูแลความปลอดภัยกับถูกปฎิเสธ โดยอ้างว่าเยาวชนที่ก่อเหตุได้ลาออกจากสถานศึกษาไปแล้ว จึงไม่มีอำนาจไปว่ากล่าวตักเตือน

นางสาวอรพิน ผู้เป็นแม่ของเด็กชายวัย 7 ขวบและ 10 ขวบ ได้พาลูกชาย ทั้ง 2 คนพร้อมเด็กนักเรียนชั้น ม.3 วัย 14 อีก 1 คน เข้ามาที่ สน.เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหาก่อเหตุรีดไถเงินเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้ว 3 คน

โดยนางสาวอรพิน แม่ของเด็ก เล่าว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบ ได้เล่าให้ตนเองฟังว่า มี รุ่นพี่ รวมกลุ่มนั่งดูดบุหรี่ หน้าปากซอยใกล้กับโรงเรียน ประมาณ 5-7 คน มีมีดและเคียวขนาดใหญ่ เป็นอาวุธ ได้เดินเข้ามาขอตังค์ 5 บาท ขณะที่เดินกลับบ้านพร้อมพี่ชาย แต่ลูกชายบอกว่าไม่มี จึงถูกจับตัวไว้

จากนั้น รุ่นพี่กลุ่มนั้นได้ค้นกระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกง ของส่วนกับพี่ชายและได้เงินจากกระเป๋าพี่ชายไปจำนวน 5 บาท หนึ่งใน แก๊งรุ่นพี่ จะทำร้าย พี่ชายที่ บอกว่าไม่มีตังค์ แต่มีหนึ่งในกลุ่มนั้น บอกว่าปล่อยไปยังเด็กอยู่ และโดนแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ที่ผ่านมา เคยร้องเรียนไปยังสถานศึกษา ขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับบุตรหลานรวมถึงเด็กคนอื่นๆด้วย แต่ ทาง โรงเรียนกลับปฏิเสธอ้างว่าเด็กกลุ่มนี้ได้ลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว จึงทำอะไรไม่ได้ และยังขอร้องไม่ให้ ตนร้องไปยังกรุงเทพมหานคร หรือกทม. หวั่นว่า ทาง กทม.จะเข้ามาตรวจสอบ และกลัวโรงเรียนจะเสียชื่อเสียง

แต่หลังจากทราบข่าวว่า น้องนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน วัย 14 ปี ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงไม่ขอโทษอดทนอีกต่อไป จำเป็นต้องร้องสื่อมวลชนขอให้เป็นสื่อกลางไปยังหน่วยงานของรัฐ ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร รวมถึง ตำรวจ และกลุ่มชุมชน ช่วยกันเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน โรงเรียน แห่งนี้ด้วย ที่สำคัญ กทม.ควรเข้ามาดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในจุดที่ยังคงล่อแหลม เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบหากเกิดเหตุไม่คาดคิดเช่นเดียวกับ น้องนักเรียนม 3 วัย 14 ปี" ผู้เป็นแม่ กล่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ