
แม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกสาวดับคาห้องผ่าตัด รพ.ปัดความรับผิดชอบ
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 นางเบญจมาศ (ปุ๋ย) อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 43 ม.6 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้ร้องเรียนต่อ มาดามส้ม ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัฒโภคิน ประธานมูลนิธิดาวเหนือ ว่าลูกสาวของตน นางสาวสุพาภรณ์ (เบ็นซ์) อายุ 21 ปี ได้มีอาการปวดบริเวณหลัง จึงได้เข้าที่การรักษาตัวที่คลินิกแห่งหนึ่ง ใน อ.พระพุทธบาท จากนั้นแพทย์ได้ฉีดยาให้เพื่อเป็นการบรรเทาปวด ผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็มีอาการปวดขึ้นมาอีกจึงกลับไปหาแพทย์ที่คลินิกอีกครั้ง และก็ได้ฉีดยาเหมือนเดิมให้อีก
และเมื่อผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ อาการก็ยังไม่หายจึงได้กลับไปที่คลินิกอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ ทางแพทย์ที่คลินิกได้ส่งตัวไปยัง รพ.พระพุทธบาท เพื่อทำการเอ็กซ์เรย์ ผลการเอ็กซ์เรย์ออกมาว่า ปอดยุบ เนื่องจากปอดรั่ว ต้องทำการผ่าตัด เจาะใส่ท่อ เพื่อช่วยเอาลมออก โดยนอนรอดูอาการอยู่ 13 วัน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ทางแพทย์จังได้นำตัว นางสาวสุพาภรณ์ เข้าเรื่อง CTแสกน พบว่ามีรอยรั่วที่ปอด อยู่ประมาณ 4 ซม. จากนั้นแพทย์ทาง รพ.พระพุทธบาท จึงได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.สระบุรี เนื่องจากว่า รพ.พระพุทธบาท ไม่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านทรวงอก และมีอุปกรณ์ เครื่องมือที่พร้อมกว่า
และเมื่ออยู่ รพ.สระบุรี แพทย์ได้ทำการต่อท่อเพิ่มขึ้นอีก 1 ท่อ เพื่อทำการดูดลมออกจากปอด พร้อมให้ออกซิเจน และให้นางสาวสุพาภรณ์ นอนดูอาการอยู่ 5 วัน โดยได้รักษาตามอาการปกติ มีเพียงวัดความดัน และให้ทานยาแก้ปวด จากนั้นทางแพทย์ได้นัดทำการผ่าตัดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 และเมื่อเข้าทำการผ่าตัดนางสาวสุพาภรณ์ ก็ได้เสียชีวิตคาห้องผ่าตัด
ซึ่งทาง รพ.สระบุรีก็ยังไม่สามารถระบุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ โดยได้ระบุว่า นางสาวสุพาภรณ์ เป็นโรคหัวใจเต้นช้ารุนแรง ซึ่งก่อนหน้านั้นทาง รพ.ไม่มีการแจ้งทางครอบครัวว่าน้องมีปัญหาทางด้านหัวใจ ซึ่งคำแรกที่แพทย์พูดกับแม่หลังจากนางสาวสุพาภณ์ เสียชีวิต ว่าเธอขั้วหัวใจอ่อนแอ และหมอยังบอกว่าลูกสาวตนหัวใจหยุดเต้น 1 ชั่วโมงแล้ว หมอพยายามช่วย แล้วน้องยังไม่กลับมา
ซึ่งทำให้ตนเองงง เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางแพทย์ไม่เคยบอกกับตนว่าลูกสาวมีปัญหาทางเรื่องหัวใจ ซึ่งถ้าตนเองรู้ว่าลูกเป็นโรคหัวใจ ตนเองก็จะต้องปรึกษากับครอบครัวก่อน และจะไม่ทำการผ่าตัด ส่วนสาเหตุการตายในวันแรกทาง รพ.ไม่ออกให้เนื่องจากอ้างว่า เป็นวันหยุด
จากนั้นตนเองได้นำร่างของนางสาวสุพาภรณ์ ออกจาก รพ. เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อมาทำพิธีทางศาสนา และต่อมาอีก 4 วันได้เข้ามาพบกับแพทย์ ซึ่งแพทย์ได้ลงสาเหตุการเสียชีวิตว่า หัวใจเต้นช้ารุนแรง ทำให้ตนเองคาใจไม่ยอมเผ่าร่างของนางสาวสุพาภรณ์ จากนั้นได้ส่งศพไปชันสูตรใหม่อีกครั้งที่ สถาบันนิติเวช(มศว) โดยแพทย์ที่สถาบันนิติเวช ลงความเห็นว่า หัวใจผู้เสียชีวิตปกติดี และการเสียชีวิตเกิดจากลมปอดรั่ว ซึ่งถ้าเป็นโรคนี้ตนเองก็ไม่ติดใจ เนื่องจากลูกสาวตนเข้าไปทำการรักษาด้วยโรคนี้จริงๆ
ตนเองสงสัยที่แพทย์ รพ.สระบุรีบอกว่าน้องเป็นโรคหัวใจ และลิ่มเลือดอุดตัน ในส่วนตัวเองแล้วมีความสงสัยเกี่ยวกับ การใช้ยา และก็เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคน้อง เหมือนเป็นการประมาทในการวินิจฉัยที่ผิดพลาด ประเมินคนไข้ผิด แล้วเอาเข้าทำการผ่าตัด ซึ่งขณะนี้ร่างของนางสาวสุพาภรณ์ ก็ยังเก็บไว้ที่ รพ.พระพุทธบาท ซึ่งถ้าหาก รพ.สระบุรีไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบตนเองก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยจะนำศพ ของลูกสาวตนไปร้องต่อ สำนักงานนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตน
ทางด้านนางเบญจมาศ กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ตนเองอยากขายที่ ที่อาศัยอยู่เนื่องจากว่ามีแต่คนเสียชีวิต คนตาย ทะเบียนบ้านทั้งทะเบียนมีคนตายแล้วทั้งหมด 4 คนแล้ว และคนที่เรารักที่สุด ทำให้มีความทรงจำในบ้านเยอะมาก ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อยากย้ายไปอยู่ที่อื่น ไปตั้งหลักใหม่ ไปสร้างครอบครัวที่เหลืออยู่ใหม่ มันเป็นความทรงจำ และอยู่มานานแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว
ซึ่งพ่อสามีตายมา 2 ปี ต่อมา ลูกชายคนเล็กของตนก็มาเสียชีวิต และมาน้องพ่อก็มาเสีย จากนั้นก็เป็นลูกสาวของตน ทำให้ตนไม่อยากอยู่แล้ว อยากเปลี่ยนเลขที่บ้าน ทะเบียนบ้าน โดยเปลี่ยนให้หมด ซึ่งพื้นที่ทั้งหมด 48 ไร่
ข่าวโดย ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี
เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews