เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการข้าว ภายใต้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต (กข.) ว่า การประชุมในครั้งนี้ได้เร่งประชุมคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว เนื่องจากในวันเดียวกันมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งมีวาระเร่งด่วน คือ การพิจารณาโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2566/67 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท วงเงินงบประมาณจ่ายขาด 56,321 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอโครงการดังกล่าวต่อ นบข.พิจารณา โดยมอบหมายกระทรวงเกษตรฯ กำหนดเงื่อนไขการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมอบหมายกรมการค้าภายใน ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นบข. ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องนำเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า รวมทั้งการขอเพิ่มองค์ประกอบของ นบข. จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ประธานศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ อีก 2 ราย เป็นกรรมการ และขอเพิ่มองค์ประกอบของ กข. จำนวน 2 ราย เป็นอนุกรรมการ เพื่อให้การดำเนินงานบริหารจัดการข้าวเป็นไปด้วยความราบรื่น คล่องตัว มีการพิจารณาโดยละเอียดถี่ถ้วน รอบคอบ ครบทุกด้าน โดยหาก นบข. มีมติเห็นชอบตามที่ กข.เสนอ ก็จะนำมติดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามระเบียบต่อไป ให้ทันในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้

ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2566/67 จำนวน 2 โครงการ โดยเฉพาะโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 ได้กำชับให้นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เน้นย้ำให้สหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศรับซื้อข้าวหอมมะลิสดจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 12,000 บาทอีกด้วย