เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม taiwannews รายงานว่า ชายไทยรายหนึ่ง วัย 41 ปี ถูกตำรวจจับกุม เมื่อเดือนที่แล้ว หลังพยายามอยู่เกินวีซ่าเกือบ 18 ปี และ อาจถูกเนรเทศ และปรับสูงสุด 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

โดยในเดือนกันยายน ตำรวจไถจง ได้จับกุมชายไทยคนหนึ่ง ที่กำลังขี่สกู๊ตเตอร์ เนื่องจากเขาดูตระหนก และพยายามหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ หลังจากเจ้าหน้าที่ถามซ้ำเกี่ยวกับสถานะวีซ่าของเขา เขาก็ยอมรับว่าหนังสือเดินทางเขาหมดอายุ และไม่มีใบอนุญาตถิ่นที่อยู่

เขาอ้างว่าได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อเจ้าหน้าที่พาเขาไปสแกนนิ้วมือที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ ก็พบว่าเขาอยู่เกินวีซ่ามานานกว่า 6,500 วัน

จากการรายงานพบว่าเขาสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว บอกกับตำรวจว่า มาจากประเทศไทย และอยู่ไต้หวันมานานแล้ว เขาบอกว่า เขาจะกลับประเทศบ้านเกิด เขาจะไปรายงานต่อเจ้าหน้าที่ แต่ในระหว่างนี้ ก็ใช้วิธีหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ เขายังบอกว่าในชีวิตประจำวัน เขาพึ่งพาน้องสาวที่แต่งงานกับคนไต้หวันเพื่อดูแลเขา และเขาก็จะเลี้ยงชีพด้วยการทำงานแปลกๆ ทำให้ตำรวจที่จับกุมเขา ได้ถามเขาตรงๆว่าอพยพผิดกฎหมายหรือไม่ จนกระทั่งนำไปสอบปากคำต่อ

เขาอยู่ในไต้หวันเกินวีซ่าเป็นเวลา 6,560 วัน หรือเทียบได้กับ 17 ปี 11 เดือน หรือ 5 ตุลาคม 2548 สมัยที่ เฉินสุ่ยเปียน ยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ขณะนี้เขาอยู่ระหว่างถูกหน่วยพิเศษควบคุมตัวระหว่างรอการเนรเทศ

ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกห้ามเข้าประเทศเป็นเวลาสูงสุด 7 ปี